พิชิต ให้เห็นใจ ทักษิณ วัย 70 ปี ไม่อิดออดเข้ากระบวนการยุติธรรม ย้ำพักโทษมีหลักเกณฑ์ ย้อนอย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัววัด ชี้ไม่ต้องป่วยโคม่าก็เข้าหลัก

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงหลายฝ่ายวิพากษ์การพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า

อยากให้ทุกคนตั้งสติ เรื่องการพักโทษเป็นอำนาจฝ่ายบริหาร และขณะนี้กระบวนการยุติธรรมจบลง ตั้งแต่ศาลออกใบแดงแจ้งโทษ ตอนนี้เข้าสู่กระบวนการพัก โทษและบริหารโทษ เป็นอำนาจของกระทรวงยุติธรรม จึงขอให้แยกตัวบุคคลออกจากองค์กร หากมองว่าการพักโทษไม่ถูกต้อง ก็ควรใช้เวทีสภาฯตั้งกระทู้ถาม เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปตรวจสอบกันในสภาฯ ว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการแตกแยกขึ้นในสังคม ดีกว่ามาเลือกที่รักมักที่ชัง และมีคติต่อกัน ขอยืนยันว่าการพักโทษของนายทักษิณ ไม่ได้เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ แต่พูดไปตามหลักเกณฑ์

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าคดีตามความผิดมาตรา 112 นายพิชิต กล่าวว่า นายทักษิณได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในเวลาที่เหมาะสมแล้ว แม้ไม่สะดวกต้องนั่งวีลแชร์ไปก็ไป เริ่มนับหนึ่งเข้าพบอัยการ เพราะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร อย่านำ 2 เรื่องนี้มาปะปนกัน ตนในฐานะนักกฎหมายรู้สึกไม่สบายใจ อยากให้สังคมตั้งหลักระหว่างการพักโทษ กับการดำเนินคดีเก่าที่ค้างอยู่ และนายทักษิณก็เข้าสู่กระบวนการอย่างไม่อิดออด เวลานี้ไม่ได้ถูกอายัดตัว เพราะเข้าพบอัยการสูงสุดเอง และได้รับการประกันตัว

เมื่อถามถึงข้อสงสัยเรื่องอาการของนายทักษิณ ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ต้องยึดหลักเกณฑ์ของการพักโทษว่าป่วยระดับไหน ไม่จำเป็นต้องโคม่า แต่จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเรื่องสุขภาพ เรื่องป่วยจริงหรือไม่จริง อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด ตนไม่ทราบว่านายทักษิณป่วยเป็นอะไร แต่เมื่อทุกคนรู้ว่าเป็นผู้ป่วย ก็ไม่ควรไปตรวจสอบ ให้เป็นเรื่องของแพทย์

“ไม่สบายใจที่นายทักษิณไปมอบตัว แล้วมีอัยการท่านหนึ่งพยายามจะถ่ายรูป ขอให้ไปตรวจสอบว่าเป็นใคร ซึ่งผมก็ไม่รู้วัตถุประสงค์ว่าถ่ายไปทำไม” นายพิชิตกล่าว

เมื่อถามว่าตามขั้นตอนไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ไม่ควรถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง แต่มีอัยการคนหนึ่งพยายามทำ ทำให้ไม่สบายใจและควรรู้จะว่าผิดกฎหมาย ไม่ใช่ละเมิดสิทธิ์

เมื่อถามว่าหลายคนสงสัยเรื่องที่ไม่ถูกติดกำไล EM นายพิชิต กล่าวว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการพักโทษ เมื่อถามย้ำว่าอยากให้เข้าสู่กระบวนการทางสภาฯแต่เหตุใดกรรมาธิการหลายคณะไม่ให้ข้อมูลเรื่องอาการป่วย และผู้มาชี้แจงอ้างว่า ผู้ป่วยไม่ยินยอมให้เปิดเผย นายพิชิต เชื่อว่า ในที่สุดแล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด และรอให้ถึงวันนั้นประชาชน จะเป็นผู้ตัดสินใจเอง

“ถึงบอกให้เห็นใจ นายทักษิณ ท่านอายุ 70 กว่าแล้ว ต้องเข้าสู่กระบวนการรับโทษและกระบวนการยุติธรรมในคดีที่ค้างอยู่ ความรู้สึกของผม ในฐานะผู้ที่มีส่วนในการทำงาน ถือว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ง่ายมาก ต่างจากคนอื่น และต้องมาตัดสินใจในยามที่ต้องอยู่กับครอบครัว ฉะนั้นอย่าเอาความรู้สึกส่วนตัว ขอให้ยึดหลักเกณฑ์ การกล่าวหาว่าทำลายกระบวนการยุติธรรม ต้องแยกเรื่อง เพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าการพักโทษ คือการบริหารโทษ บรรดานักโทษที่ได้รับการลดโทษ จำคุก 20 ปี 30 ปี ติดกันไม่เคยครบ คนเหล่านั้นก็ทำลายกระบวนการยุติธรรมหมดสิ” นายพิชิต กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน