เศรษฐา ยันเดินหน้าจับเข่าคุย ‘เศรษฐพุฒิ’ ผู้ว่าแบงก์ชาติ หลังให้สัมภาษณ์สื่อนอกย้ำไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ลั่นขอให้กลับไปคิดถึงประชาชนที่เดือดร้อนบ้าง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณี นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ยืนยันยังไม่จำเป็นต้องจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษ เพื่อปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และไม่ได้ดันทุรังว่า ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน เพราะธปท.เป็นหน่วยงานอิสระ รัฐบาลไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง

แต่ยืนยันว่าสิ่งที่เรียกร้องไปมีเหตุผล ความเดือดร้อนของประชาชนก็เป็นเรื่องสำคัญ และที่ผู้ว่าฯธปท.พูดออกมา 3 ข้อ ไม่มีเรื่องประชาชนเลย ตนอยากให้ท่านกลับไปคิดว่า วันนี้ประชาชนเดือดร้อนเราช่วยกันได้ ก็คงต้องพูดคุยกันต่อไป

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องจับเข่าคุยแบบจริงจังกับผู้ว่าฯธปท.อีกครั้งหรือไม่ เนื่องจากนโยบายการเงินและการคลังไม่สอดคล้องกัน นายกฯกล่าวว่า คงเป็นในลักษณะนั้น เมื่อถึงเวลาสมควรจะมีการนัดหมายกับผู้ว่าฯธปท. เพื่อมาพูดคุยกัน

เมื่อถามว่ารัฐบาลส่งสัญญาณไปแล้วถึง 3 ครั้ง นายกฯ กล่าวว่า ตนก็จะทำครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้าต่อไป แล้วดูว่าคนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย วันนี้เราอยู่ในสังคมที่เจริญและพัฒนาแล้ว มีความเห็นต่างก็พูดคุยกันได้ ไม่ได้ทะเลาะ หรือมีบรรยากาศที่ไม่ได้ทำงานร่วมกัน แม้วันนี้จะยังไม่ได้รับการขานรับก็ยังต้องคุยต่อไป และพยายามต่อไปใช้เหตุและผล ตัวเลขการชี้นำของเศรษฐกิจต่างๆ ก็บ่งบอกอะไรหลายๆ อย่าง

“ก็ต้องคุยต่อไป พยายามต่อไปด้วยเหตุด้วยผล ตัวเลขการชี้นำเศรษฐกิจต่างๆ ก็บ่งบอกอะไรหลายๆ อย่าง 2.5% ยังมีรูมเหลือเยอะแยะ ถ้าเกิดมีวิกฤตอะไรเกิดขึ้น 0.25% ไม่ได้เป็นอะไรที่จะทำให้ไม่สามารถเคลื่อนนโยบายต่างๆ ได้” นายเศรษฐา กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า รองผู้ว่าฯ ธปท.ก็เคยมาคุยและอธิบายให้ตนฟังว่า ถ้าเอาอัตราดอกเบี้ยลงไป คนที่มีเงินฝากแบงก์อยู่ก็จะไปดูในเรื่องของสินทรัพย์เสี่ยง ที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เพื่อหา return ที่สูงขึ้น คนที่อยู่คือคนที่อยู่ท็อปด้านบน แต่วันนี้เราพูดถึงคนที่อยู่ฐานรากมากกว่า ก็อยากให้ท่านคำนึงถึงประชาชนในมิติอื่นๆ ด้วย

เมื่อถามย้ำว่าผู้ว่าฯธปท. เคยพูดตรงๆ ถึงเหตุผลหรือไม่ถึงความเห็นต่าง นายเศรษฐากล่าวว่า ก็อธิบายและพูดคุยกันไป เป็นเรื่องที่ตนคุยกับท่าน ซึ่งต้องให้เกียรติกัน

ส่วนที่ผู้ว่าฯ ธปท.บอกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดจะส่งผลต่อภาวะหนี้ครัวเรือน นายกฯ กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนปัจจุบันก็สูงอยู่แล้ว และคุณก็ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แล้วดอกเบี้ยค้างจ่ายไปอยู่ที่ไหน ก็ไปอยู่ที่หนี้ หนี้ครัวเรือนก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน