พัชรวาท โผล่ตอบกระทู้สว. ให้เอกชนปลูกป่าชายเลน ยันยังดำเนินโครงการต่อตามนโยบายรัฐบาล ยันมีการประเมินผลดี-ผลเสีย-ประโยชน์ชาติ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามเรื่องการจัดสรรพื้นที่ป่าชายเลนให้เอกชนปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ของนพ.อำพล จินดาวัฒนะ สว. ถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ว่า

การเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจได้เข้าไปรับประโยชน์เต็มๆ จากการปลูกป่าชายเลนและรับประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตในระยะยาว แต่ชุมชนได้เพียงส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นใช่หรือไม่ ทั้งนี้ พบว่ากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ประกาศพื้นที่เข้าร่วมโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อรับประโยชน์คาร์บอนเครดิตสำหรับบุคคลภายนอกปี 2566 อีก15,000 ไร่ 35 บริษัทและองค์กร

นพ.อำพล กล่าวต่อว่า จึงอยากถามว่าการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนหรือบุคคลภายนอกเข้าไปใช้พื้นที่สาธารณะหาประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าให้โอกาสชุมชนได้ร่วมพัฒนาดูแลประโยชน์หรือไม่ และรัฐบาลยังดำเนินโครงการลักษณะนี้ต่อไปหรือไม่ เพราะทราบว่ามีแผน 10ปี และรัฐบาลมีนโยบายและมาตรการส่งเสริมความเข้มแข็งชุมชน ให้ชุมชนเป็นเจ้าภาพทำโครงการนี้โดยไม่ต้องผ่านเอกชน

ด้านพล.ต.อ.พัชรวาท ตอบกระทู้ถามว่า ที่มาของโครงการปลูกป่าชายเลนฯ เนื่องจากประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกในการประชุมคอบ 26 ต่อมาคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติมอบหมายให้กระทรวงทรัพย์ฯ ทำโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคอร์บอนเครดิต

โดยมีหลักเกณฑ์ว่าพื้นที่ป่าชายเลนยังคงเป็นของรัฐ และกรมทรัพยากรทางทะเลฯ เป็นเจ้าของโครงการ ควบคุมดูแลและติดตามประเมินผลโครงการไม่ใช่เป็นการอนุญาตสัมปทาน โดยกรมฯดำเนินการปลูกป่าชายเลนฯเมื่อปี 65 เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนและแหล่งกักเก็บคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพื่มความหลากหลายของระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนและเอกชนมีส่วนร่วม

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า การดำเนินโครงการฯ มีการประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีทั้งเอกชน องค์กร และมูลนิธิ รวม14 ราย โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ

ทั้งนี้ ไม่ใช่อนุญาตให้เอกชนมาดำเนินการในลักษณะการให้สัมปทานป่าไม้ เป็นเพียงให้ร่วมดำเนินโครงการฯ เท่านั้น ชุมชนยังใช้ประโยชน์จับสัตว์น้ำ หาของป่า ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ภายในชุมชน และวิถีชีวิตได้อย่างปกติ โดยต้องเป็นไปอย่างสมดุลไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า กระทรวงทส. ยังดำเนินโครงการนี้ต่อไปตามนโยบายรัฐบาล แต่จะติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการ เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาผลดีผลเสีย ความคุ้มค่า และประโยชน์ของชาติและประชาชนที่จะได้รับเป็นสำคัญ

หากโครงการใดไม่ดำเนินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด กระทรวงฯจะยกเลิกโครงการต่อไป ทั้งนี้ มาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนในการพัฒนาป่าชายเลนนั้น ทางกระทรวงฯ ให้กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ลงทะเบียนเป็น กลุ่มชุมชนชายฝั่ง และให้ชุมชนช่วยดูแลพื้นที่ในรูปแบบป่าชายเลนชุมชน ตามกฎหมายกรมทรัพยากรทางทะเลฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน