“สว.สมชาย” หนุน “ยิ่งลักษณ์” กลับไทยมารับโทษ จำคุก 5 ปี เตือน ถ้าใช้เกณฑ์พักโทษเหมือน “ทักษิณ” อ้างป่วยไปอยู่ชั้น 14 เกิดวิกฤตศรัทธาแน่

เมื่อเวลา 10.05 น. วันที่ 5 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจจะได้กลับประเทศไทยตามรอยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

โดยนายสมชาย กล่าวว่า ปัญหาคือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีคดีที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ประเด็นคือจะใช้เกณฑ์ไหน ซึ่งตนเห็นด้วยกับนักโทษที่หลบหนีคดีแล้วศาลตัดสิน โดยเฉพาะส่วนใหญ่ที่เป็นนักการเมืองที่เกี่ยวกับคดีทุจริต เมื่อจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินแล้ว ก็กลับมาได้

น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนไทย ก็สามารถกลับเข้าประเทศได้ตลอดเวลา เพียงแต่เมื่อกลับเข้ามาแล้วก็ต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ก็ต้องรับโทษ เว้นแต่จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งตนคิดว่ากฎเกณฑ์เรื่องการพักโทษก็ยังมีข้อสงสัยและข้อครหาที่กำลังตรวจสอบกันอยู่ เกี่ยวกับการพักโทษของนายทักษิณ ว่าถูกต้องตามระเบียบหรือไม่

“เกณฑ์อายุ 70 ปีนั้น นายทักษิณเข้าเกณฑ์แน่นอน แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ อายุยังไม่ถึง 60 ปี และการพักโทษก็ต้องรวมถึงการเป็นโรคเรื้อรังที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วย ซึ่งจะมีข้อคำถามว่าการประเมินนั้นจะอยู่ในเกณฑ์หรือไม่

หากดูจากการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่นอกประเทศ ก็ยังแข็งแรงอยู่ เหมือนนายทักษิณชกมวยอยู่นอกประเทศ วันก่อนยังเห็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปชิมอาหารอยู่สิงคโปร์ ยังร่าเริงอยู่ ก็ยังถือว่าไม่เข้าเงื่อนไขการขอพักโทษ ดังนั้น หากน.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับประเทศ ก็ต้องทำใจไว้ในการเข้ารับโทษในเรือนจำ” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า คิดว่าคนไทยเห็นแล้วว่า กระบวนการท้ายน้ำของระบบยุติธรรมของกรมราชทัณฑ์มีปัญหา ฉะนั้น ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าประเทศมาแล้วไม่รับกระบวนการยุติธรรม แต่ทำซ้ำ ไปอยู่ชั้น 14 โดยอ้างว่าป่วยเพื่อที่จะพักโทษอีก คิดว่าวิกฤตศรัทธากระบวนการยุติธรรมจะเยอะขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตนสนับสนุนให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางกลับประเทศ แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนเมื่อเข้าเรือนจำแล้วจะทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ เพื่อลดโทษ หรืออะไรก็ตาม จะเข้าเรือนจำแล้วอยู่กี่เดือนกี่วัน








Advertisement

เลื่อนจากนักโทษชั้นกลาง เป็นชั้นดี ชั้นเยี่ยม ชั้นดีเยี่ยม แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษในปีถัดๆ ไป เหมือนนักโทษทั่วไปกว่า 210,000 คน ที่ยังค้างอยู่ในเรือนจำ คิดว่าสังคมรับได้ แต่ถ้ามาวิธีพิเศษเหาะเหินเดินอากาศ เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมก็จะวิกฤตซ้ำ

เมื่อถามว่าอ่านเกมแล้วคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะกลับประเทศหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่รู้ แต่มีคนพยายามสร้างเงื่อนไขศรีธนญชัยทางกฎหมาย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ข้อกฎหมาย ปัญหาอยู่ที่เราเลือกใช้ วิธีลอดช่องกฎหมาย ซึ่งวันหน้าคนที่เอื้ออำนวยน่าจะได้รับผลทางกฎหมาย

นายสมชาย กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา กรรมาธิการฯ ได้เชิญตัวแทนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ

ฉะนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้จะมีผลในวันหน้า ต่อการประพฤติปฏิบัติมิชอบของฝ่ายข้าราชการ ซึ่งจะเป็นบทเรียนให้กับข้าราชการ เพราะคนที่ได้รับประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณหรือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในอนาคตหากกลับประเทศ เขาคงไม่มารับผิดชอบต่อข้าราชการประจำ ดังนั้น ข้าราชการประจำก็ต้องรับไป

“อย่างคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส กระทิงแดง ผ่านมา 10 ปีแล้ว ก็ยังดำเนินการฟ้องผู้เกี่ยวข้องที่ให้ความช่วยเหลืออยู่ ฉะนั้น การให้ความช่วยเหลือกับนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อให้ข้าราชการเกษียณอายุไปแล้ว ก็หนีอาญาแผ่นดินไม่ได้

ถ้ามีข้อมูลเพียงพอที่จะชี้ ไม่ว่าหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เวชระเบียน หรือไทม์ไลน์ต่างๆ ข้อเท็จจริงปรากฏไม่เปลี่ยน คนที่คิดว่าลอดช่องกฎหมายได้ ติดคุกมานักต่อนักแล้ว มีคดีที่ข้าราชการติดคุกแทนนักการเมืองก็มาก

เห็นชัดเจนคือกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวกับคดีจำนำข้าว ทั้งข้าราชการ กระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต ใครอยากได้ตำแหน่งแล้วไปอาสาทำ ก็ต้องรับความชอบในวันนี้ และความผิดในวันหน้า ซึ่งจะเป็นบทเรียนของการบิดเบี้ยวกฎหมาย” นายสมชาย กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน