สส.เพื่อไทยซัดกลางสภาฯ ‘ปดิพัทธ์’ ก้าวก่ายฝ่ายบริหาร ไปบุกทำเนียบรัฐบาล ทำเสียศักดิ์ศรี ธีระชัย เหน็บไปแบบโคจร ไม่มีใครตอนรับ ตัวเองไป ‘บิ๊กตู่’ยังเลี้ยงกาแฟ ‘พิเชษฐ์’เบรกวุ่น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการพิจารณา นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นตำหนิการทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่1 ที่ไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายไชยวัฒนา กล่าวว่า ถือว่าไม่เหมาะสม ทั้งที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินกิจการของสภา ให้เป็นไปตามข้อบังคับ และต้องวางตนเป็นกลาง แม้นายปดิพัทธ์ จะบอกว่าไปในนามส่วนตัว แต่ก็สลัดไม่ออกว่าเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
หากตนไม่ลุกขึ้นมาพูด ก็เดินกลับพื้นที่ไม่ได้ เพราะมันคือเกียรติยศ และศักดิ์ศรี ของสภาฯแห่งนี้ และในรัฐธรรมนูญมาตราที่ 1 มาตราที่ 3 แบ่งอำนาจนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ ชัดเจน เราไม่ก้าวล่วงกัน เราเคารพซึ่งกันและกัน
“เกิดมาผมก็เพิ่งเคยพบเคยเห็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติบุกฝ่ายบริหาร ซึ่งไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ชื่อปดิพัทธ สันดิภาดา” นายไชยวัฒน์ กล่าว
ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงประธานว่า ต้องควบคุมเวลาในการหารือ ตอนนี้ครบ 5 นาทีแล้ว แต่ถ้านายไชยวัฒน์เห็นว่านายปดิพัทธ์ ใช้อำนาจล้นเกิน ก็อยากให้เสนอเป็นญัตติเข้ามา จะได้ช่วยกันรับรองญัตติ จะพิจารณาทั้งวันก็ยินดี ตนไม่ชอบที่จะมาบอกว่าใครอยู่มาก่อน อยู่หลัง ประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง
นายไชยวัฒน์ โต้ว่า ไม่เป็นปัญหา พวกตนหวานก็ต้องอมขมก็ต้องกลืน เพราะว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน
ด้านนายพิเชษฐ์ วินิจฉัยว่า ตนฟังแล้วนายไชยวัฒน์ พูดถึงศักดิ์ศรีของสส. และอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจและสังคมตั้งข้อสังเกตไว้ และหากนายปดิพัทธ์ ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานที่ประชุมก็จะได้ชี้แจง
จากนั้นนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนชื่อชมการปฏิบัติหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ มาตลอด เพราะมาจากการเลือกตั้งเป็นสส.เขต เหมือนกับตน แต่การที่จะเสนอกฎหมาย อย่างสมัยที่แล้วตนเสนอ ร่างพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย กว่าที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯขณะนั้นจะลงนาม เป็นเวลาเกือบ 2ปี
ฉะนั้นสิ่งที่นายปดิพัทธ์ ทำไปนั้นตนว่าลาออกเถอะ มันเสียศักดิ์ศรี หากท่านเข้าไปตามตรอกออกตามประตู ได้รับการต้อนรับอย่างดีในการประสานงาน แต่นี่มันเสียศักดิ์ศรีสถาบันรัฐสภา
“ไปแบบโคจรไป ไม่มีใครต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่จากไหนไม่รู้มาต้อนรับ ผมไปตอนนั้น นายกฯประยุทธ์เลี้ยงกาแฟ แต่ครั้งนี้นายกฯก็ไม่ได้มา อย่างน้อยก็ต้องรองนายกฯมาต้อนรับ” นายธีระชัย กล่าว
นายพิเชษฐ์ ปิดไมค์ไม่ให้พูด แต่นายธีระชัย ยังคงตะโกนลั่นห้องประชุม นายพิเชษฐ์ จึงกล่าวว่า “ท่านจะฟังผมมั้ย ท่านธีระชัยจะหยุดมั้ย ท่านจะหยุดพูดมั้ย ท่านนั่งลง” ทำให้นายธีระชัยต้องนั่งลง
นายพิเชษฐ ชี้แจงว่า เดี๋ยวตนจะเชิญประชุมวิป 3 ฝ่าย ทั้งรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และตัวแทนรัฐบาล มาหารือในสัปดาห์หน้า เพื่อจะดูว่าเรื่องไหนที่เร่งด่วน จำเป็น และการทำหน้าที่ของแต่ละคนก็แล้วแต่ดุลยพินิจของประธานฯ ตามรัฐธรรมนูญ แล้วแต่ว่าท่านจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไร เดี๋ยวนายปดิพัทธ์ ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ก็ให้ท่านชี้แจง