อิ๊งค์ ร่วมเวที UNESCAP รับวันสตรีสากล ย้ำหมุดหมายผลักดันผู้หญิงสู่สนามการเมือง พร้อมจัดทำนโยบายเพื่อลดอุปสรรคทางเพศ ชี้เศรษฐกิจดี แก้ปัญหาความเท่าเทียมได้
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2567 ที่ UNESCAP องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์เนื่องในวันสตรีสากล โดยมีตัวแทนผู้หญิงจากพรรคเพื่อไทย อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองหัวหน้าพรรค น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษารมว.การต่างประเทศ เข้าร่วม
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ เรามีผู้นำหญิงมากมายทั้งในภาครัฐและเอกชน แม้ผู้หญิงจะมีบทบาทขับเคลื่อนประเทศ และประเทศไทยเคยมีนายกฯ ที่เป็นผู้หญิงมาแล้ว แต่การผลักดันผู้หญิงให้เข้ามามีส่วนร่วมในแวดวงการเมือง ยังเป็นเรื่องสำคัญของประเทศไทย
ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อัตราส่วนของ สส.หญิง มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากอดีต แต่ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของสภาทั่วโลก โดยพรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคที่มีสัดส่วนนักการเมืองผู้หญิงมากที่สุดในประเทศไทย
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา พรรคเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิง ได้มีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนวิธีคิดที่สังคมมีต่อผู้หญิง (empowerment) ให้โอกาสผู้หญิง และผลักดันนโยบายเพื่อลดอุปสรรคทางเพศ และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ผลักดันเพียงเพศใดเพศหนึ่ง แต่คำนึงถึงความสามารถ ความเป็นไปได้ และความพร้อมของบุคลากรเป็นหลัก โดยไม่ได้มีข้อจำกัดทางเพศ
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางและนโยบายของพรรคเพื่อไทย พร้อมสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงไทย ไม่ว่านโยบายฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก การส่งเสริมและพัฒนาการคุ้มครองสวัสดิภาพ เพื่อปกป้องและเยียวยาเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว
Advertisement
นโยบายหนึ่งครอบครัว หนึ่งศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ (One Family one Soft Power) และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และต้องผลักดันเพื่อลดช่องว่างระหว่างเพศกันต่อไป ทั้งการขยายวันลาคลอด สิทธิในการเข้าถึงผ้าอนามัย สวัสดิการเด็กแรกเกิด และประเด็นอื่นๆ ที่ต้องต่อสู้กับค่านิยมและมายาคติในสังคม โดยอาศัยเวลาและเชื่อมั่นจากประวัติศาตร์ที่ผ่านว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้
“พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล เราเชื่อว่า เศรษฐกิจที่ดี ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้ทุกเพศทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องความเท่าเทียมในระยะยาวได้มากที่สุด เพราะการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจเป็นอำนาจที่สำคัญที่สุด” น.ส.แพทองธาร กล่าว
