“ธิษะณา” ร้อง กมธ.ทหาร ตรวจสอบสาเหตุ ปมอดีตผู้ช่วย สส. เสียชีวิตในค่ายทหาร ปัดไม่ทราบมีปัญหาส่วนตัวหรือไม่ จี้ผู้บังคับบัญชา รับผิดชอบ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายคมทัช พันฤทธิ์ อดีตผู้ช่วยสส. ได้กระทำอัตวินิบาตกรรม ภายในค่ายทหาร โดยมี ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกมธ. เป็นผู้รับหนังสือ
น.ส.ธิษะณา กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่านายคมทัช ได้ผูกคอเสียชีวิตในค่ายทหารของกองทัพบกแห่งหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดอย่างแน่ชัดถึงสาเหตุการตัดสินใจครั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนมีความเศร้าใจและกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุอื่นหรือแรงจูงใจ รวมถึงอาจกดดันจากการกระทำหรือไม่
ตนมีการพูดคุยกับนายคมทัชเป็นระยะ โดยนายคมทัชได้บอกกล่าวถึงความรู้สึกทนทุกข์ และความยากลำบากในการรับราชการทหารอย่างต่อเนื่อง และนายคมทัชได้แจ้งว่าใกล้จะปลดประจำการแล้ว จึงไม่มีเหตุจูงใจในการทำอัตวินิบาตกรรม
น.ส.ธิษะณากล่าวว่า ตนจึงอยากให้ทางกมธ.ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีข้อเสนอแนะ คือ 1.กองทัพบกและกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ต้องแสดงความจริงใจและความโปร่งใส โดยการเปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อหน้าสาธารณะชน หรืออย่างน้อยที่สุดต่อ กมธ.การทหาร
2.ผู้บังคับบัญชาของนายคมทัช ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลที่อาจเกี่ยวเนื่องกับมูลเหตุจูงใจการเสียชีวิต
และ 3.ต้องให้มีมาตรการป้องกันแก้ไขรักษาอาการสภาวะและโรคทางจิตเวชที่เกิดจากการฝึกฝน และการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลอย่างครอบคลุมและทั่วถึง มีประสิทธิภาพและต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
เมื่อถามกรณีกองทัพบกออกมาชี้แจงว่า สาเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากปัญหาส่วนตัวกับแฟน น.ส.ธิษะณา กล่าวว่า เราต้องพิจารณาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการกดดันจากการเกณฑ์ทหาร และเรื่องการถูกบังคับต่างๆ รวมถึงอาจจะมีเรื่องส่วนตัว ซึ่งตนไม่ทราบ เนื่องจากไม่มีข้อมูลและหลักฐาน
“น้องไม่ได้ส่งข้อความเกี่ยวกับเรื่องแฟน แต่ส่งมาในเรื่องของการกดดันจากผู้บังคับบัญชาที่กระทำต่อตัวเขามาอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้น ดิฉันไม่สามารถพูดถึงมุมมองในเรื่องส่วนตัวได้ แต่เพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกันอาจจะทราบ ทั้งนี้ เป็นอำนาจของกมธ.ที่จะสืบทราบความจริงต่อไป” น.ส.ธิษะณา กล่าว
เมื่อถามว่าผู้เสียชีวิตจะปลดประจำการอยู่แล้ว คิดว่าอะไรคือมูลเหตุจูงใจในการกระทำครั้งนี้ น.ส.ธิษะณา กล่าวว่า ตนไม่อยากฟันธง เพราะอาจจะมีผลกระทบต่อทางญาติด้วย ขอให้ทางกมธ.ตรวสอบสาเหตุของการตัดสินใจในครั้งนี้ก่อน
ตอนที่ทำงานอยู่กับตนไม่มีอาการอะไร เพราะใช้ชีวิตอย่างอิสระ มาช่วยงานทั้งพรรคและงานส่วนตัวของตน เพิ่งมามีอาการตอนเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร โดยส่งข้อความมาคุยกับตนเป็นประจำว่านอนไม่หลับ ซึ่งเป็นอาการเบื้องต้นของโรคซึมเศร้า ต้องยอมรับว่าจากที่ได้ทราบข่าวรู้สึกเสียใจมาก
ด้าน ร.ท.ธนเดช กล่าวว่า กมธ.ทหารให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตรวจสอบอย่างชัดแจ้ง เพื่อตอบคำถามกับสังคมให้ได้ เบื้องต้นที่ทางกองทัพบกได้แจ้งถึงสาเหตุการอัตวินิบาตกรรมมาจากเรื่องแฟนสาวนั้น เป็นมุมมองของกองทัพบก ซึ่งมีหลายมุมมองมาก แต่ทางกมธ.ไม่ได้ทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
ร.ท.ธนเดช กล่าวต่อว่า ซึ่งในขณะนี้ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจในผลชันสูตร จากเหตุการณ์นี้ทำให้กองทัพต้องกลับมาพึงระลึกในประเด็นดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น ในการดูแลสภาพจิตใจของกำลังพล