กมธ. แจงตัดงบเรือฟริเกต เหตุกองทัพเรือไม่มีทีโออาร์ชัดเจนซื้อจากประเทศไหน กังวลเหมือนเรือดำน้ำ ยันเห็นความจำเป็นให้จัดซื้อในปีถัดไป

เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 20 มี.ค.2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงินงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 2 เรียงตามมาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2567 พิจารณาเสร็จแล้ว

ร.อ.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการตัดลดงบประมาณการจัดซื้อเรือฟริเกต 1 ลำ วงเงิน 17,000 ล้านบาท มีเหตุผลใด กองทัพเรือต้องไม่ใช่เหยื่อการเมือง การจัดงบแบบนี้อาจเกิดวิกฤติในกองทัพ ทำให้กำลังพลน้อยใจ

ด้านนายธเนศ เครือรัตน์ ประธานอนุกรรมาธิการงบฯ 67 ด้านมั่นคง ชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มาตรา 8 กระทรวงกลาโหม ว่า เรื่องของกองทัพอากาศ เกี่ยวกับงบผูกพันใหม่ 6 พันล้านบาทเศษ ทั้งหมด 10 โครงการ ซึ่งกรรมาธิการได้ท้วงติงกองทัพอากาศไปหลายประเด็น เพราะเราเข้าใจว่ามีระยะเวลาใช้งบประมาณเพียง 5 เดือน แต่กองทัพอากาศยืนยันว่าทั้ง 10 โครงการเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของนักบินและผู้โดยสาร

เช่น โครงการปรับปรุงเครื่องยนต์ จำนวน 32 เครื่องยนต์ สำหรับเครื่องบิน C130 จำนวน 8 เครื่อง ซึ่งถึงเวลาที่ต้องปรับปรุง โครงการพัฒนาขีดความสามารถซ่อมบำรุงเครื่องยนต์แบบที 2 ซึ่งกองทัพอากาศยืนยันว่าต้องปรับปรุงในปีนี้ และมีการจัดหาสิ้นส่วนระบบสละอากาศยนต์ฉุกเฉิน คือ เก้าอี้ดีดตัว ซึ่งถึงเวลาต้องเปลี่ยน

นายธเนศ กล่าวต่อว่า ในส่วนกองทัพบกที่มีข้อสงสัยว่าทำไมถึงมีงบผูกพันใหม่อีก 9,641 ล้านบาทเศษ ในจำนวนนี้เป็นโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์ก จำนวน 3 ลำ รวมทั้งอากาศยานที่เป็นเครื่องบินฝึกทดแทนแบบ 41 จำนวน 450 ล้านบาท แต่ใน 9,641 ล้านบาท เป็นการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไประยะที่ 3 ช่วงที่ 1 จำนวน 5 พันล้านบาท

ในอนุกรรมาธิการมีการถามว่าระยะเวลาการใช้งบเหลืออีกไม่กี่เดือนจะจัดหาทันหรือไม่ ทางกองทัพบกได้นำหนังสือที่ได้รับอนุมัติจากสภาครองเกรส สหรัฐฯ มาชี้แจงว่ามีการตกลงไปแล้ว เราก็เห็นว่าจำเป็นต้องซื้อ ทางกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่จึงอนุมัติให้กองทัพบกได้ซื้อ และจำนวนเฮลิคอปเตอร์ที่กองทัพบกมีอยู่ 100 กว่าลำ ปลดประจำการไปแล้วเกือบทั้งหมด ยังเหลือประจำการในส่วนที่แบล็กฮอว์ก เพียง 23 ลำเท่านั้น จึงจะซื้อเพิ่มเติมอีก 3 ลำ

นายธเนศ กล่าวต่อว่า ส่วนการตัดงบประมาณจัดซื้อเรือฟริเกต 1 ลำ วงเงิน 17,000 ล้านบาทนั้น เนื่องจากกองทัพเรือไม่มีทีโออาร์ชัดเจนว่าจะจัดซื้อจากประเทศอะไร ซึ่งเราห่วงว่าถ้าจัดซื้อเรือในเวลาที่เหลือเพียง 5 เดือน ก็เกรงจะเกิดปัญหาเหมือนเรือดำน้ำอีก กรรมาธิการจึงให้ตัดงบจัดซื้อเฉพาะในส่วนปี 2567








Advertisement

ยืนยันว่ากรรมาธิการพิจารณาด้วยความรอบคอบ และยังเห็นถึงความจำเป็นการมีเรือฟริเกต แต่ให้จัดซื้อในปีถัดไป ยืนยันการปรับลดงบประมาณจะไม่กระเทือนถึงประสิทธิภาพของหน่วยงานป้องกันประเทศ

จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 8 ตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก ด้วยเสียง 284 ต่อ 163 งดออกเสียง 1 ไม่ออกเสียง 2 เสียง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน