“สส.ลำปาง ก้าวไกล” เสนอตัดโครงการซื้อรถผลิตน้ำของ ปภ. ทั้งโครงการ สกัดส่วนต่างมหาศาล มูลค่า 522 ล้าน แนะโอนให้ อปท. ทำดีกว่า

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่สอง พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงินงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 2 เรียงตามมาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 พิจารณาเสร็จแล้ว

เวลา 17.00 น. นายชลธานี เชื้อน้อย สส.ลำปาง พรรคก้าวไกล อภิปรายมาตรา 20 กระทรวงมหาดไทยว่า ตนขออภิปรายในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในงบประมาณ 4.490 พันล้านบาท ซึ่งไม่มีการปรับลด

แต่ตนขอเสนอให้มีการปรับลดจำนวน 135 ล้านบาท ในส่วนของครุภัณฑ์ รถผลิตน้ำดื่มขนาด 2 พันลิตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นครุภัณฑ์นอกบัญชีมาตรฐาน จึงไม่มีราคากลาง ได้มีการจัดซื้อจำนวน 120 คัน คันละ 7.5 ล้านบาท ผูกพัน 2 ปีงบประมาณ ในปี 67 จำนวน 135 ล้านบาท และปี 68 จำนวน 765 ล้านบาท

ซึ่งตนได้สอบถามรองอธิบดีปภ.ว่า ทำไมจะต้องเป็นจำนวน 120 คัน รองอธิบดีฯ ตอบว่า คิดจากจำนวนประชาชน 3 แสนคนต่อ 1 คัน และผู้อำนวยการกองปภ. บอกว่า มีรถประจำทุกเขตของปภ. 18 เขตทั่วประเทศ เพียงแต่อาจจะไซส์เล็กกว่าที่จุดซื้อ คือ ไซส์ 1 พันลิตรต่อชั่วโมง โดยมีศูนย์ละ 3-4 คัน

นายชลธานี กล่าวต่อว่า ตนได้ไปสืบราคาจากบริษัทชั้นนำที่ทำเกี่ยวกับระบบประปา สเปก แบรนด์ ไซส์เดียวกัน ระบบเหมือนกันแต่ราคาต่างกันกับที่ ปภ. จะจัดซื้อเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ที่สืบมาคือราคา 3,143,660 บาท หากรวม 120 คัน และหากโครงการนี้ผ่านจะเกิดส่วนต่างของราคามหาศาล เป็นมูลค่า 522 ล้านบาท

นอกจากนั้น ตนได้ตรวจสอบจากศูนย์ ปภ. แต่ละศูนย์ว่า รถน้ำได้ใช้บางหรือไม่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ค่อยได้ใช้ นานๆ ออกที ไปงานกาชาด งานออกหน่วย ส่วนภัยแล้งตามจุดประสงค์นั้น เจ้าหน้าที่บอกว่าคนขับรถยังไม่มีเลย

บางครั้งน้ำมันก็ไม่พอ จะขอใช้ต้องทำหนังสือรอ ผอ.อนุญาต รอหนังสือสั่งการกว่าจะได้อนุมัติ ตนจึงถามว่าหากปภ.จะจัดซื้ออีก 120 คัน เจ้าหน้าที่บอกว่าซื้อมาทำไม ทำไมไม่เอาเงินไปจ้างคนขับมาขับเครื่องจักรกล รถบริการต่างๆ ที่อยู่ตามศูนย์แต่ไม่มีคนขับ

“ทั้งนี้ ผมทราบว่ามีบางอบจ.มีการจัดซื้อรถเป็นของตนเองเพื่อช่วยเหลือประชาชน เพราะอยู่ใกล้ชิดประชาชนช่วยเหลือได้ทันท่วงที ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้น จึงเห็นว่างบของปภ.ในส่วนนี้ควรเอาไปให้อปท.ใช้ดีกว่าหรือไม่ จะมีประสิทธิภาพมากกว่า ผมขอเสนอตัดทั้งโครงการ แล้วให้มหาดไทยเสนอกลับมาใหม่ในปี 68” นายชลธานี กล่าว

ด้านนายภราดร ปิศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกมธ. ชี้แจงว่า เรื่องรถผลิตน้ำดื่ม จำนวน 120 คัน ทางปภ.ชี้แจงว่าใช้ประชากร 5 แสนคนต่อรถ 1 คัน และกระจายไปทั่วภูมิภาค เพราะเห็นว่าปีที่กำลังจะถึงนี้ รวมถึงในปีถัดไป สถานการณ์ภัยแล้งกำลังจะรุนแรงมากขึ้น

ทางปภ.มีหน้าที่จะไปช่วยบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะน้ำดื่ม น้ำใช้ ส่วนเรื่องคนขับที่บอกว่าไม่พอนั้น ทางปภ.ตอบว่า ได้จ้างคนขับให้ขับรถเครื่องจักรทุกประเภท ทางกรมฯ ไม่สามารถจ้างคนเพื่อที่จะไปประจำรถคันใดคันหนึ่งได้ จึงจ้างคนไว้จำนวนหนึ่งแล้วให้หมุนเวียนกันขับรถทุกคันที่มีอยู่ในศูนย์นั้นๆ

นายภราดร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ของปภ.ในการดับเพลิงนั้น เหตุผลที่กมธ.ชุดใหญ่คืนงบการจัดซื้อให้ปภ.นั้น เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ปภ.ต้องเตรียมตัวป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้

“การบอกว่าปภ. มีเฮลิคอปเตอร์ 4 คัน แต่ไม่เคยดับไฟเลยนั้น เพราะไม่มีเหตุเกิดขึ้นจึงไม่ได้ใช้ แต่ถ้าเกิดเหตุแล้วไม่มีใช้จะถูกตั้งคำถาม ทำไมไม่เตรียมตัวให้พร้อม จึงเป็นการเตรียมการป้องกันภัย แม้ภารกิจดับไฟไม่ใช่ของปภ.โดยตรง แต่การมีเครื่องมือช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน ถือเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นของหน่วยใด” นายภราดร กล่าว

ขณะที่นายบุญลือ ประเสริฐโสภา กมธ.สัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า กรณีการจัดซื้อรถผลิตน้ำดื่ม ที่บอกมีส่วนต่างจัดซื้อ 522 ล้านบาทนั้น ปภ.อยู่ในการดูแลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย คนระดับนายอนุทิน แค่ 5 สตางค์ท่านก็ไม่เอา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน