สว.เฉลิมชัย ถาม ‘เศรษฐา’ ดิจิทัลวอลเล็ต ทำได้จริงหรือไม่ ถาม ‘จุลพันธ์’ ใครจะดักตีหัว จี้เร่งแก้ปัญหาประมง การศึกษา ผู้มีอิทธิพล

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม พิจารณาการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153

เวลา 11.35 น. นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สว. อภิปรายถึงเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดิน ซึ่งมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะแก้ปัญหานี้อย่างไร และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะมีแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในการออกโฉนดที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 อย่างไร

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการประมง ปัญหาการศึกษา การปราบผู้มีอิทธิพล มีการขึ้นบัญชีไว้เท่าไหร่ โดยเฉพาะจ.ภูเก็ต นายอำเภอออกใบอนุญาตให้ชาวต่างชาติมีและใช้อาวุธปืนได้จำนวนเท่าไหร่ อนุญาตให้ชาวต่างชาติพกปืนติดตัวได้กี่กระบอก รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือน นายเศรษฐาจะแก้ปัญหาอย่างไร

นายเฉลิมชัย อภิปรายถึงโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) เคยประกาศนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน โดยใช้จากงบประมาณปี 2567 ซึ่งประกาศทุกเวทีหาเสียงว่าจะไม่กู้เงิน แต่ตอนนี้เป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะไปทางไหน

ทั้งนี้ ตนมีข้อสังเกตคือ การประกาศเช่นนั้นมีลักษณะสัญญาว่าจะให้ ซึ่งอาจผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 73(1) ที่ห้ามไม่ให้ผู้สมัครผู้ใดเสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด มีโทษจำคุกหนึ่งถึง 10 ปีปรับ 20,000 ถึง 200,000 เพิกถอนสิทธิ์ 20 ปี และจนถึงขณะนี้นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะนำเงินมาจากไหน หน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ และนโยบายดังกล่าวจะดำเนินการได้หรือไม่

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บอกว่า การหาเสียงแบบนี้จะเป็นบรรทัดฐานของพรรคการเมือง หาเสียงไว้อย่างไรก็ได้ เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม ป.ป.ช.จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเป็นการดำเนินนโยบายที่ไม่ตรงปกกับที่หาเสียงไว้

หากขัดก็เป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. และครม.โปร่งใส มีบรรทัดฐานถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ ป.ป.ช.เข้ามาไต่สวนตรวจสอบเรื่องนี้ หากเห็นว่าผู้นั้นกระทำความผิดให้ดำเนินการตามนี้ ถ้าเป็นกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้เสนอศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย

การที่รัฐบาลบอกจะออกเป็นพ.ร.บ.กู้เงินนั้น รัฐบาลที่ผ่านๆมาออกเป็นพระราชกำหนดทั้งนั้น เพราะการออกเป็นพ.ร.บ.จะใช้เวลานานและต้องผ่านทั้ง สส. สว. และศาลรัฐธรรมนูญ แบบนี้จะเร่งด่วนได้อย่างไร และเรื่องการแจกเงินก็แจกตามปกติ ไม่ต้องกู้ เงินก็ให้จ่ายเป็นเงินบาท จะลดความเสี่ยงต่อการขัดต่อวินัยการเงินการคลังของรัฐ ไม่สร้างหนี้สาธารณะ แล้วนายเศรษฐา จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เลือกตั้งครั้งหน้าจะตอบประชาชนว่าอย่างไร

“พอเป็นรัฐบาลก็เจอโรคเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นั่งอยู่ตรงนี้ก็บอกว่าแจกแน่นอน แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เพราะมีคนคอยดักตีหัวอยู่ ผมถามว่าจริงหรือไม่ ถ้าไม่แจก ก็เจ๊งเลย ย้ำว่าหากทำไม่ได้จริงๆ ก็ยอมรับกับประชาชนเถอะ ดีกว่าไปเสี่ยงแล้วติดคุกหัวโต” นายเฉลิมชัย กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน