สว.ถวิล อัด รัฐบาล ช่วย ทักษิณ พ้นโทษ ทำลายกระบวนการยุติธรรม ลั่น รอกฎหมายตามเช็กบิลย้อนหลัง เชื่อกฎแห่งกรรมบิดเบือนไม่ได้
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา พิจารณาการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153
เวลา 15.00 น. นายถวิล เปลี่ยนสี สว. อภิปรายถึงปัญหากระบวนการยุติธรรมภายใต้การบริหารของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ว่า รัฐบาลแถลงนโยบายจะฟื้นฟูหลักยุติธรรมให้เข้มแข็ง ศักดิ์สิทธิ์ โปร่งใส เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งสวยหรูดูดีมาก แต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม
แถมยังสร้างความเสียหายให้กับหลักนิติธรรมอย่างมาก ชัดสุดกรณีอดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศ แล้วกลับมารับโทษ เข้าไปอยู่ในเรือนจำกลางไม่กี่ชั่วโมงก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้นที่ 14 ด้วยข้อมูลทางแพทย์ที่เคลือบแคลงน่าสงสัย ไม่ชัดเจน ก่อนได้รับการพักโทษ
ไม่ถึงเดือนก็เดินทางไปเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่ มีทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงมารอรับและรายงานข้อราชการ โดยอาการเจ็บป่วยที่แพทย์บอกว่าวิกฤตหายหมดไม่เหลือเค้าคนป่วยเลย เรื่องนี้สังคมไทยมองว่ามันบิดเบี้ยว เบี่ยงเบนไม่เสมอภาคเท่าเทียมรายอื่น
นายถวิล กล่าวว่า กระบวนการที่ไม่ตรงปกนี้ จะมีผลกระทบต่อสังคม คือ ทำให้เกิดความแตกแยกเพิ่มขึ้น เพราะคนที่รักก็เชียร์ ส่วนคนที่เกลียดชังก็แช่ง ความสงบสามัคคีจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำเรื่องนี้จะกระทบต่อค่านิยมที่สำคัญของบ้านเมือง และยังทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมืองหมดสิ้น
การที่รัฐบาลเขียนนโยบายว่าการลงทุนในเรื่องหลักนิติธรรม เป็นการลงทุนที่ถูกและคุ้มค่าที่สุดในการบริหารประเทศ แต่สิ่งที่ทำลงไป เป็นการเอาชื่อเสียงความเชื่อถือของระบบยุติธรรมประเทศที่แสนแพง ต้องขาดทุนย่อยยับ และยังทำลายระบบราชการ และระบบยุติธรรมเสียหาย โดยเฉพาะการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษา
“ผมขอตำหนิรัฐบาลที่กำกับดูแลจนทำให้เกิดเรื่องน่าละอายเช่นนี้ ท่านน้อมประคองส่งมอบสิ่งนี้ให้เขาเอง ทั้งที่สามารถป้องกันแก้ไข ที่น่าเสียใจยิ่งกว่านั้น คือท่านยังยืนยันว่าทำถูกทำดีแล้ว อวิชชาที่บดบังสติปัญญาเช่นนี้ ผมคิดว่ายากที่จะพูดให้เข้าใจหรือทำให้เห็นแจ้งเห็นจริง
คงต้องรอกฎหมายตามเช็กบิลการกระทำต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง โดยป.ป.ช. ซึ่งเป็นสิ่งที่จะตามมา แต่สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนกว่าไม่สามารถบิดเบือนได้คือกฎแห่งกรรม ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตามวิบากกรรมที่กระทำของทุกคนต่อไป” นายถวิล กล่าว
