พิธา เผย ในที่ประชุม IPU เจนีวา สภาไทยเตรียมพิจารณาผ่านร่างสมรสเท่าเทียมวันนี้ ชี้ถ้าสำเร็จจะเป็นชาติแรกในอาเซียน ลั่น Love is love กลุ่มคนที่เคยถูกกีดกัน จะได้รับสวัสดิการอย่างเท่าเทียม

วันที่ 27 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.เวลา 17.30 น. ตามเวลาในท้องถิ่น เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะตัวแทนจากรัฐสภาไทย กล่าวรายงานความคืบหน้าของรัฐสภาไทยในการสร้างสังคมที่โอบรับความหลากหลาย (Inclusive Society)

นายพิธา กล่าวว่า รัฐสภาไทยมี 3 เสาหลักในสร้างสังคมโอบรับความหลากหลาย ประกอบด้วยการสมรสเท่าเทียม, ความเสมอภาคเท่าเทียมทางด้านชาติพันธุ์และสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง และการปกป้องคุ้มครองแรงงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยุติธรรมในสังคม

เสาแรก สมรสเท่าเทียม ในอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงนี้ ห่างจากที่เจนีวาไป 9 พันกิโลเมตร สภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทยจะประชุมเพื่อพิจารณาผ่านร่างกฎหมายที่เป็นหมุดหมายสำคัญ คือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ถ้ากฎหมายนี้ผ่านได้สำเร็จ ไทยก็จะกลายเป็นชาติแรกในอาเซียน และเป็นเพียงไม่กี่ชาติในเอเชียที่ทำให้เกิดสมรสเท่าเทียมขึ้นได้จริง

เราบอกว่าสิทธิความเสมอภาคทางเพศเป็นสิทธิมนุษยชน เราจะพูดว่า “Love is Love” และกลุ่มคนที่เคยถูกกีดกันก่อนหน้านี้ จะมีสิทธิ์วางแผนครอบครัว สร้างครอบครัว และดูแลรักษาครอบครัวในยามเจ็บป่วยฉุกเฉินได้แล้ว

เสาที่สอง ความเสมอภาคเท่าเทียมทางด้านชาติพันธุ์และสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง เราบอกว่าสิทธิของชาติพันธ์ุและชนเผ่าพื้นเมืองนั้นสำคัญ แม้จะมีความแตกต่างหลากหลายกันด้านวัฒนธรรมและภาษา แต่ทุกคนต้องเข้าถึงความยุติธรรมในที่ดินทำกินของตนเอง ต้องเข้าถึงระบบการศึกษาที่ดี รวมทั้งบริการพื้นฐานสำคัญของรัฐที่มีคุณภาพได้

เสาที่สาม การปกป้องคุ้มครองแรงงาน เราพูดถึงการส่งเสริมให้คนทำงานได้มีงานที่ดี มีคุณค่า ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม เราพูดถึงความเสมอภาคทางเพศในที่ทำงาน เราพยายามสร้างหลักประกันให้สิทธิการลาคลอด เราพยายามสร้าง work-life balance ที่คนทำงานทุกคนสมควรได้รับ

นายพิธา กล่าวว่า ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ ไม่ใช่แค่กฎหมายที่ถูกเขียนบทกระดาษ แต่เรากำลังส่งสารไปยังคนทั้งโลก ส่งสารไปยังลูกหลานว่าพวกเขาจะไม่ถูกกีดกันในสังคมไทย








Advertisement

“ผมขอให้ทุกคนในที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภานี้ ว่าในวันที่ 27 มี.ค. ร่วมส่งแรงใจไปยังสภาฯไทยที่อยู่ห่างไป 9 พันกิโลเมตร ถ้ากฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน จะกลายเป็นชัยชนะของชุมชน LGBTQIA+ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่รวมถึงชัยชนะของคนทั้งโลกด้วย” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า การเมืองของความเป็นไปได้ มันอาจจะไม่สมบูรณณ์แบบ มันต้องใช้เวลายาวนาน แต่มันแสดงให้เห็นว่า ถ้าเราทำไปด้วยกัน ร่วมกันทลายอุปสรรคทั้งหลาย เราก็จะก้าวไกลไปด้วยกันได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน