“กมธ.ต่างประเทศ ชง รัฐบาล เจรจาเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น เพิ่มโควตาแรงงาน ผลักดัน นิรโทษกรรม “ผีน้อย” ชี้ส่งเด็กไร้สัญชาติ 19 คน กลับเมียนมา กระทบหลักมนุษยธรรม

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ได้ติดตามประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง ประเด็นแรก กรณีแรงงานไทยในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีแรงงานชาวไทยเข้าไปทำงานโดยผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น (ผีน้อย)

โดยในเกาหลีใต้มีแรงงานถูกกฎหมาย 40,000 คน ผิดกฎหมายประมาณ 140,000 คน และในญี่ปุ่นแรงงานถูกกฎหมาย 8,000 คน ผิดกฎหมายประมาณ 40,000 คน ซึ่งการทำงานที่ผิดกฎหมายกระทบต่อสวัสดิภาพของคนงาน และภาพลักษณ์ของประเทศ

ทางกมธ.ได้เชิญผู้แทนกระทรวงแรงงาน เช่น ผู้ตรวจราชการกระทรวง อธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ เช่น กรมเอเชียตะวันออก และกรมการกงสุลมาให้ข้อมูล

นายนพดล กล่าวว่า กมธ.มีข้อเสนอแนะ 4 ข้อ ดังนี้ 1.การแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในต่างประเทศอย่างยั่งยืนนั้น ต้องทำโดยการหาตลาดให้แรงงานไทยให้มีตำแหน่งมากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการไปทำงานในต่างประเทศของแรงงานไทย ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นทุกปี

2.ผลักดันการเดินทางไปทำงานต่างประเทศที่ถูกกฎหมายให้มากขึ้น โดยรัฐบาลควรเร่งเจรจากับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เพิ่มโควตาการไปทำงานที่ถูกกฎหมาย การไปทำงานโควตาภาครัฐปัจจุบันเพียง 8,500 คน และญี่ปุ่น 1,200 คน

นอกจากนั้น ควรลดความยุ่งยากเงื่อนไข ขั้นตอน การเข้าไปทำงานอย่างถูกกฎหมายสำหรับแรงงานไทย และควรสนับสนุนบริษัทจัดหางานภาคเอกชนในการส่งออกแรงงานมากยิ่งขึ้น

3.ผลักดันการนิรโทษกรรมแรงงานผิดกฎหมายหรือผีน้อยที่ไม่มีสวัสดิการแรงงานตามกฎหมาย โดยกมธ.เสนอให้รัฐบาลเจรจากับฝ่ายเกาหลีและญี่ปุ่น เพื่อนิรโทษกรรมแรงงานผิดกฎหมายดังกล่าว เช่น ให้สามารถทำงานต่อไปได้โดยไม่ถูกส่งกลับ และไม่มีประวัติการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งให้ได้รับสวัสดิภาพและสวัสดิการด้านแรงงานที่เหมาะสม

4.ประเด็นที่มีข่าวว่าญี่ปุ่นอาจทบทวนการยกเลิกวีซ่าฟรีนั้น ในขณะนี้คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นปีละประมาณ 1,000,000 คน อยู่เกินวีซ่าประมาณ 10,000 คน กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่ามีการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างญี่ปุ่นและไทย

ประธานกมธ. กล่าวว่า โดยฝ่ายไทยจะเพิ่มมาตรการการประชาสัมพันธ์ มิให้มีการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ร่วมมือกับสายการบิน บริษัททัวร์ ควบคุมดูแลไม่ให้หนีทัวร์ และอยู่เกินวีช่า รวมทั้งจับกุมนายหน้าหางานเถื่อน เพื่อลดจำนวนคนที่อยู่เกินวีซ่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศปลายทาง

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อคนไทยส่วนใหญ่ที่ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นโดยไม่ต้องมีวีซ่า และหวังว่าญี่ปุ่นจะพิจารณามาตรการที่ฝ่ายไทยจะดำเนินการด้วยดี

นายนพดล กล่าวต่อว่า อีกประเด็น คือ เด็กไร้สัญชาติ 19 คนอาจถูกผลักดันกลับเมียนมา ทราบว่าขณะนี้อยู่ที่จ.เชียงราย ทางกมธ.ไม่เห็นด้วย เนื่องจากการผลักดันเด็ก ไม่ว่าจะมีหรือไร้สัญชาติ อาจฝ่าฝืนพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2556

รวมถึงอาจละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศ ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็ก และในขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังผลักดันเรื่องจุดมนุษยธรรมที่แม่สอด เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเมียนมา ซึ่งเป็นการแสดงบทบาทของไทยอย่างสร้างสรรค์ในภูมิภาค

“กมธ.เห็นว่าการผลักดันเด็ก 19 คนกลับเมียนมา น่าจะเป็นการกระทำที่สวนทาง กระทบต่อหลักการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ การคุ้มครองเด็กไร้สัญชาติไม่เพียงแต่เป็นการดำเนินการทางมนุษยธรรมเท่านั้น แต่เป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ สร้างเกียรติภูมิของประเทศ ทำให้ไทยมีจุดยืนในเวทีระหว่างประเทศอย่างสง่างาม” นายนพดล กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน