ก้าวไกล โต้วิปรัฐบาล เสนอเวลาชี้แจงของครม. 6 ชม.มาเอง พอไม่พอก็มาขอเพิ่ม ซัดไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบ ชี้สะท้อนระดับวุฒิภาวะ-ไม่ให้ความสำคัญการตรวจสอบถ่วงดุล
วันที่ 1 เม.ย. 2567 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงประธานวิปรัฐบาล ระบุจะทบทวนเวลาอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 จากเดิมฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง อาจเหลือ 18 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มเวลาชี้แจงให้ ครม.ว่า ข้อตกลงที่ฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง ครม. 6 ชั่วโมงนั้น เป็นข้อตกลงของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ครม. และประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. โดยมีเอกสารอย่างเป็นทางการ
ข้อเสนอที่ให้เวลา ครม. 6 ชั่วโมงนั้น ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เสนอมาเอง ตนในฐานะตัวแทนฝ่ายค้านในวันนั้น ตอบรับโดยไม่ได้ต่อรองใด ๆ เลย
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ขัดข้อง หาก ครม.จะใช้เวลาเกิน 6 ชั่วโมง เพราะการอภิปรายของฝ่ายค้าน เราก็อยากได้คำตอบที่ชัดเจนเช่นกัน และ สส.ฝ่ายค้านก็พร้อมปิดประชุมดึกกว่าที่กำหนด เพื่อให้ ครม.ได้ชี้แจงอย่างเต็มที่
แต่การที่พรรคร่วมรัฐบาล อยากจะเพิ่มเวลาฝ่ายตนเอง ก็ไม่มีสิทธิ์มาลดเวลาฝ่ายค้าน ที่วางแผนภายใต้กรอบ 22 ชั่วโมงมาตลอด โดยเฉพาะมาเสนอก่อนถึงวันอภิปรายเพียง 2 วัน และจะนัดประชุมเพื่อทบทวนสัดส่วนเวลาในเช้าวันที่ 3 เม.ย.เพียง 1 ชั่วโมงก่อนเปิดประชุม
“ไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายค้านที่จะต้องมารับผิดชอบการวางแผนที่ไม่รอบคอบของฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายค้านจะต้องไปขอต่อรอง เพราะนี่เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องมาขอจากฝ่ายค้านเองว่าจะไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ท้ายที่สุด นี่อาจเป็นความพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แต่ปฏิกิริยาของพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่พอใจการขอนับองค์ประชุมของฝ่ายค้านในสัปดาห์ที่แล้ว อดคิดไม่ได้ว่าการขอลดการอภิปรายของฝ่ายค้านโดยไม่จำเป็นแบบฉุกละหุกครั้งนี้ อาจแค่ต้องการจะแก้แค้นเท่านั้น
หากจะเอาวาระที่เป็นเวทีใหญ่ในการตรวจสอบรัฐบาลมากระทำแบบนี้ บ่งบอกได้ถึงระดับวุฒิภาวะของคนในรัฐบาล และการไม่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภาเลย
Advertisement
ด้านน.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลต่างตบเท้าออกมาพูดว่าไม่กลัวการอภิปราย 152 เย้ยฝ่ายค้านว่าอย่าอภิปรายซ้ำซากบ้าง อย่าวนเวียนใช้วาทกรรมบ้าง ถ้ารัฐบาลไม่กลัวจริงตามที่ปากพูด ก็ควรนั่งนิ่งๆ ใจร่มๆ เปิดดูคลิปเก่าๆ ที่พรรคตัวเองเคยอภิปรายไปพลางๆ เผื่อจะละอายใจบ้าง
