นายกฯ ยินดีรับทุกข้อเสนอแนะ แต่ข้อกล่าวหาต้องขอหลักฐานด้วย แจงความจำเป็นเดินทางไปต่างประเทศ หวังไทยมีตัวตนบนเวทีโลก ย้ำไม่เคยเพิกเฉยปัญหาประชาชน หลายเรื่องเป็นบวก
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 เม.ย.2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีการอภิปรายเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ป็นผู้อภิปรายเสนอญัตติในภาพรวม
อ่านข่าวที่นี่ : เริ่มแล้วเวทีซักฟอก ชัยธวัช ร่ายยาว บริหารปท.ไร้ประสิทธิภาพ ทำประชาชนสิ้นหวัง
จากนั้น เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ชี้แจงว่า ยินดีมารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ได้ตอบข้อสงสัย หรือหากมีประเด็นไหนที่ยังไม่ชัดเจน รัฐมนตรีทุกท่านพร้อมให้ความกระจ่าง และในส่วนของข้อเสนอแนะ จะนำไปปฏิบัติ หากเป็นข้อเสนอแนะที่นำไปปฏิบัติได้เป็นรูปธรรม
จากนี้ 2 วัน ที่จะได้พูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ ทำให้ประชาชนที่รับฟังอยู่ ได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เริ่มต้นมาท่านก็พูดแรงพอสมควร ไม่ว่าเรื่องสิ้นหวัง ล้มเหลว ไม่โปร่งใส ไม่ปฏิรูป ถอยหลัง ปิดบัง ทำลาย แต่ก็มีอีกด้านเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมีหวัง สำเร็จ สิทธิ พัฒนา แทนที่จะเป็นปฏิรูป
ส่วนที่บอกว่าถอยหลัง ก้าวหน้า วกวน เราก็เดินหน้าไป เรามีความโปร่งใส เชื่อว่าหลายอย่างที่รัฐบาลทำอยู่ ก็พยายามทำให้เป็นเรื่องบวก เป็นเรื่องของอนาคต และแสงสว่าง ที่ประชาชนจะได้เห็น แต่หากยังมีข้อกังขาในเรื่องความไม่โปร่งใส ไม่สำเร็จถดถอยก็บอกมา ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีพร้อมชี้แจง
นายกฯ กล่าวต่อว่า การที่เราทำงานมา 6 เดือน มีการอนุมัติงบประมาณไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรามั่นใจว่าเราทำงานซื่อสัตย์ โปร่งใส เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และพร้อมให้ความกระจ่างกับสมาชิกที่ยังไม่มีความเข้าใจกับเรื่องเหล่านี้ ท่านพูดมาหลายเรื่องไม่ว่าหนี้สินหรือการบริหารจัดการ ซึ่งรัฐบาลตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ หนี้เกษตรกรก็พักหนี้ ไม่ได้เพิกเฉยหรือไม่ดูแลเกษตรกร
เรื่องพลังงานก็ดูแลราคาเบนซิน ค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการต่อไป ตรงนี้ไม่ได้เพิกเฉยหรือนิ่งนอนใจ เราตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ปัญหายาเสพติดก็มีการทำงานอย่างชัดเจน มีคณะทำงานที่ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระบวนการยุติธรรมต่างๆ โดยไตรมาส 4 ปีที่แล้ว จับยาบ้าได้มากกว่าปีก่อนหน้านั้นทั้งปี จึงเป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ว่าเราทำงาน และกวดขันเรื่องนี้อย่างดี
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องการท่องเที่ยว เราทำให้ประชาชนมีรายได้เข้ากระเป๋ามากขึ้น จากการดำเนินการหลายอย่าง วีซ่าฟรีของคนจีน ทำให้การค้าระหว่างประเทศ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวกมากขึ้น และในประเทศต่างๆก็จะมีการยกระดับต่อไป โดยรมว.ต่างประเทศ ก็พยายามทำให้พาสปอร์ตไทยมีคุณค่ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลา แต่การพัฒนาก็เป็นไปในทิศทางที่ดี ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า เรื่องฝุ่น pm 2.5 รัฐบาลนี้เสนอร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด แม้ในอดีตหรือในปัจจุบัน จ.เชียงใหม่ จะยังมีปริมาณฝุ่นสูงติดอันดับโลก แต่หากเปรียบเทียบระหว่างปีที่ผ่านมากับปีนี้ จำนวนฮอตสปอตต่างๆ ลดลงอย่างมาก แสดงว่ารัฐบาลไม่ยิ่งหย่อนที่จะทำงานโดยให้ความสำคัญกับสิทธิพื้นฐานของประชาชนทุกคน
นายกฯ กล่าวถึงเรื่องที่เราไปมีตัวตนบนเวทีโลก หลายท่านวิจารณ์ว่า ตนเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ขอชี้แจงว่าจาก 10 กว่าครั้ง เกือบครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องที่เราควรต้องไป เป็นเรื่องของอาเซียน และเรื่องที่ประชุมกันเป็นประจำอยู่แล้ว เราเป็นน้องใหม่ เป็นผู้นำที่เพิ่งเข้าสู่ตำแหน่ง จึงต้องไปพบพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบายกัน เพื่อให้ประเทศไทยมีตัวตนบนเวทีโลก แต่ละที่ที่ไปเต็มไปด้วยคุณภาพ และเต็มไปด้วยขั้นตอนต่อไป ที่เราสามารถนำมาเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนได้ การเจรจาเอฟทีเอก็มีผลสัมฤทธิ์ และกำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้เป็นตัวอย่างคร่าวๆ
“ทุกเรื่องต้องใช้เวลา รัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น เชื่อว่าทุกคนทำงานหนัก รัฐมนตรีทุกคนมีความปรารถนาดีต่อประชาชน หากท่านมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆ ก็รับฟัง หากมีข้อกล่าวหาอะไร ขอหลักฐานขอเหตุผล” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าประเทศไทยหลังเลือกตั้ง เรามีความก้าวหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น รัฐบาลยินดีรับฟังรับข้อเสนอจากทุกท่าน และรัฐมนตรีทุกท่านพร้อมให้ความกระจ่างในทุกๆเรื่อง แต่หากเป็นเรื่องที่กล่าวโทษกล่าวหา ก็ขอหลักฐานมาบ้าง เราจะได้ไปทำงานกันได้