โฆษกรัฐบาล เผยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือญี่ปุ่น ให้ไทย อันดับ A- มีเสถียรภาพ เชื่อมั่น นโยบายรัฐบาลเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัท Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของญี่ปุ่น ยังคงความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ A และคงมุมมองความน่าเชื่อถือที่ระดับมีเสถียรภาพ

โดยยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาล ระยะยาวสกุลเงินตราต่างประเทศที่ระดับ A- และสกุลเงินบาทที่ระดับ A และยืนยันมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในระดับที่มีเสถียรภาพ

นายชัย กล่าวว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการส่งออก รวมถึงความมั่นคงของระบบการเงิน และความสามารถในการฟื้นตัวจากผลกระทบภายนอก โดยเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2564 และในปี 2567 คาดว่าจะรักษาอัตราการเติบโตปานกลางได้ โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออก ภาคบริการ และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งในระยะยาว การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราการเกิดที่ลดลง และจำนวนประชากรสูงวัย

“การจัดอันดับดังกล่าว สะท้อนถึงมุมมองของต่างประเทศต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยและแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยในรายงานฯ ระบุว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยกลับมาเกินดุลในปี 2566 และรัฐบาลได้แก้ไขปัจจัยที่ทำให้เกิดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2564 และ 2565 เช่น ราคาน้ำมันที่สูง และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง และคาดว่าจะคงดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลในปี 2567” นายชัย กล่าว

นายชัย กล่าวว่า รัฐบาลได้ทำให้สถานการณ์การเงินและการคลังของประเทศเข้มแข็ง จะเป็นแรงเสริมสำคัญให้รัฐบาลเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งได้เต็มที่

โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต ควบคู่กับการปฏิรูปโครงสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งประเมินสถานการณ์วางแผนป้องกัน ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง มีนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเตรียมไว้ เชื่อมั่นว่าเป็นนโยบายที่ได้ผล และจะนำมาใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดของเศรษฐกิจไทยเพื่อต่อสู้กับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน