วันนอร์ ชี้มีโอกาสเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ช่วงพ.ค.-มิ.ย. เพื่อถกงบปี 68 โวสภาชุดนี้ ทำงานดีมีประสิทธิภาพ มองซักฟอก ภาพรวมดี ประท้วงแค่สีสันแต่ดึกไปหน่อย
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2567 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า หลังปิดสมัยประชุมสภาฯ 9 เม.ย.นี้แล้ว มีโอกาสที่จะเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ก่อนเปิดสมัยประชุมอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค. เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่รัฐบาลเสนอ ซึ่งสภาต้องพิจารณาภายใน 15 วัน และเห็นว่ารัฐบาลจะจัดทำร่าง กฎหมายงบประมาณ 2568 เสร็จเรียบร้อย ภายในเดือนเม.ย. เข้าครม. เพื่อให้ความเห็นชอบกลางเดือนเม.ย.
ถ้าส่งมาสภาก็จะต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเดือนพ.ค.หรือ มิ.ย. เพื่อพิจารณาวาระ 1 และตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ขึ้นมาพิจารณา แต่หากเปิดสมัยประชุมวิสามัญแล้วหากมีเรื่องอื่น ที่สำคัญ ก็คงจะให้เวลาในการพิจารณาตามสมควร
ส่วนกฎหมายที่ค้างอยู่ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า มีหลายส่วนที่ค้างอยู่ในกมธ.วิสามัญหรือกมธ.สามัญ เมื่อพิจารณาเสร็จก็เข้าสภาฯ และมีบางส่วนเป็นร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเงินที่ต้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณารับรอง 39 ฉบับ หากรัฐบาลดำเนินการเสร็จ ก็ให้ส่งมาสภาเพื่อเปิดสมัยวิสามัญจะได้มีกฎหมายพิจารณา และเชื่อว่ารัฐบาลต้องการเช่นนั้น
สำหรับการทำงานของรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติ ในสมัยประชุมที่ผ่านมา ประธานรัฐสภากล่าวว่า ไม่ใช่ความรู้สึกของตนเพียงคนเดียว แต่สื่อมวลชนและประชาชนได้วิเคราะห์การทำงานของสภาฯ ชุดที่ 26 ทำงานด้วยดีมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพเพราะสมาชิก เตรียมตัวค่อนข้างดี เวลาอภิปรายก็มีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจน สามารถใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นการพัฒนาบทบาททางด้านนิติบัญญัติเพื่อให้เกิดความศรัทธาของประชาชน
สมัยประชุมที่ผ่านมา ได้ประชุมถึง 32 ครั้ง โดย 31 ครั้ง ประชุมที่ผ่านไปได้ด้วยดี มีเพียงครั้งเดียว ที่องค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งถือว่าน้อยมากและหวังว่า ในสมัยประชุมหน้าจะดีกว่านี้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและมีการพัฒนาด้านนิติบัญญัติ
สำหรับการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ตลอด 2 วันที่ผ่านมา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การประท้วงเป็นเรื่องธรรมดา เพื่อให้มีสีสันของสภา แต่ถือว่าน้อยมาก ตนอยู่ในสภาฯมา 40 กว่าปี แม้จะอภิปรายแบบ 152 ไม่ลงมติแต่ไม่มีการประท้วงแบบมีองครักษ์พิทักษ์ มีบ้างนิดหน่อยแต่ภาพรวมถือว่าเป็นการอภิปรายที่ดี แม้จะใช้เวลา 2 วัน ดึกไปหน่อย
แต่การอภิปรายครั้งต่อไป เชื่อว่าวิปทั้งสองฝ่ายจะเข้าใจ จะไปบริหารว่าจะใช้เวลาเท่าใด เพราะถ้าใช้เวลามากเกินไปจะอภิปรายซ้ำซาก