นครินทร์ ยันศาลรธน.ไม่มีธงพิจารณาคดี ชี้ได้แค่ขัดหรือไม่ขัดรธน. ไม่มีตรงกลาง ยินดีรับเสียงวิจารณ์โดยสุจริต นัด 17 เม.ย. ถกคำร้องสภาขอตีความประชามติแก้รธน.
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2567 นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงการวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมค่อนข้างมากว่า การวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่ดี แต่น่าคิดว่าการวิจารณ์นั้นทำให้บ้านเมืองสงบคือเป็นที่ยอมรับหรือไม่ เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ปัญหาอยู่ตรงนี้ ไม่ได้อยู่ตรงที่การวิจารณ์
ตนก็ยินดีรับคำวิจารณ์จากทั้งนักวิชาการ พรรคการเมือง องค์กรต่างๆ แต่ต้องวิจารณ์โดยสุจริตไม่ใช้คำหยาบคาย ดูถูกเหยียดหยามองค์กรตุลาการเพราะมีโทษทางกฎหมาย
เมื่อถามว่าการวิจารณ์ก่อให้เกิดแรงกระแทกหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า ก็เข้าใจ แต่ในแง่หนึ่งแสดงให้เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับ เพราะข้อขัดแย้งทางการเมืองมันไม่ได้ลดน้อยไป แต่ปัญหาคือ เมื่อมีข้อขัดแย้งทางการเมืองแล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
ความจริงการแก้ไขปัญหาทางการเมืองส่วนหนึ่งมาจากการเจรจาของพรรคและองค์กรต่างๆ ถ้าตกลงกันได้ ก็ไม่ต้องมาศาล จบที่สภาดีกว่า แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้แล้ว แต่ยื่นมาศาล แสดงว่าเห็นศาลเป็นที่พึ่ง ซึ่งจะให้โต้แย้งกันและศาลจะรับฟังสองฝ่าย และพิจารณาทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายก่อนตัดสิน
ส่วนที่บางคนมองว่าการตัดสินหลายครั้งมีธงนั้น เห็นว่าเรื่องที่ขึ้นมาศาลจะออกได้เพียง 2 หน้า คือซ้ายกับขวาเท่านั้น ไม่มีตรงกลาง ตนเคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยสอนลูกศิษย์มันตอบได้หลายทาง ซึ่งก็ถูกหมด ใครให้เหตุผลดีก็ได้คะแนนไป แต่มาศาลออกได้แค่ด้านซ้าย ด้านขวาเท่านั้น คือขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
เราอาจคิดว่ามันเป็นธง คำว่า ธง เป็นกิจกรรมการเรียนของคณะนิติศาสตร์ เวลาเรียนวิชากฎหมายก็ต้องมีธงซึ่งต้องไปอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาเก่าๆ คำตอบของครูบาอาจารย์เก่าๆแล้วเอามาเป็นธงว่าข้อกฎหมายนี้จะตอบอย่างไร
แต่ในศาลรัฐธรรมนูญไม่มีธง เราโต้เถียงกันมากพอสมควรและต้องดีใจว่าเรามีตุลาการใหม่เพิ่มเข้ามาทั้งนายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยเจริญกุล ซึ่งก็จะทำให้ความเห็นทิศทางบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้
Advertisement
เมื่อถามว่าสภาฯมีมติยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาเรื่องการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าต้องทำประชามติกี่ครั้ง นายนครินทร์ กล่าวว่า ยื่นมาแล้วและจะพิจารณาวันที่ 17 เม.ย.นี้
