ณัฐชา เห็นใจ ‘หมอชลน่าน’ หลุดเก้าอี้รมต.ว่าการคนเดียว ทั้งที่เหนื่อยสุด-แบกรับสถานการณ์ช่วงเลือกตั้ง สงสัยใครอยู่เบื้องหลัง ‘นายกฯ’ หรือไม่

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2567 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1/1 ว่า ไม่ต่างจากเดิมมากนัก มีรัฐมนตรีว่าการเพียง 2 คนที่เปลี่ยนเข้ามา

หากดูลึกๆ คนที่เป็นเลือดแท้ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่อสู้ฟันฝ่าในช่วงที่พรรคเพื่อไทยขาลง ไม่ประสบความสำเร็จตามหวังเท่าไหร่ ต้องไปดูว่าสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยปรับเปลี่ยนเป็นแบบนี้ มีจุดประสงค์เพื่ออะไร

“คนวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งช่วงจัดตั้งรัฐบาล คนที่เปลืองตัวที่สุด คนที่คิดว่าน่าจะต้องอยู่ตลอดรอดฝั่ง อย่างนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่เป็นหมอ และดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข ซึ่งตรงสายที่สุด น่าจะอยู่ได้นานกว่านี้ หรือมีผลงานอะไรได้มากกว่านี้ กลับกลายเป็นรัฐมนตรีว่าการคนแรกๆ ที่ถูกปรับออกในส่วนของพรรคเพื่อไทย

ซึ่งก็น่าตั้งข้อสังเกตว่าเพราะเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงตัดสินใจเช่นนั้น ตัดสินใจให้อดีตหัวหน้าพรรคที่นำทัพช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา และช่วงที่ผ่านมาเกิดวิกฤตหลายอย่าง แต่วันนี้ตัดสินใจสับเปลี่ยนให้คนที่ทอดทิ้งพรรคเพื่อไทยไป แล้วกลับเข้ามาใหม่ในวันที่พรรคเพื่อไทยเจริญรุ่งเรือง สมดังหวังตามที่ต้องการทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยากเป็นรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดก็แล้วแต่” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ต้องดูว่าเป็นการตัดสินใจของนายกฯ คนเดียวหรือไม่ หรือองค์ประกอบอื่นที่บีบคั้นให้นายกฯ ต้องปรับเช่นนี้ แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งการปรับครม.ก็ยังไม่ตอบโจทย์พี่น้องประชาชน ไม่ได้ใช้คนให้ตรงกับงาน แต่เป็นการปรับเพื่อให้ตรงกับโควตาทางการเมืองเหมือนเดิม

เมื่อถามว่าเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ตำแหน่งรัฐมนตรียุคพรรคเพื่อไทยว่า เป็นสมบัติผลัดกันชมหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ถือว่าพรรคเพื่อไทยรักษาคาแรกเตอร์ เพราะในอดีตก็มีการพูดกันว่า 6 เดือนเปลี่ยน ถือเป็นสไตล์การบริหารของพรรคเพื่อไทย

แต่แน่นอนว่าจะบริหารอย่างไร ต้องสอดคล้องกับงาน ซึ่งขณะนี้ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า รัฐมนตรีที่ไม่ตรงกับงานกลับได้อยู่ต่อ แต่รัฐมนตรีที่ถูกมองว่าตั้งตรงกับตำแหน่งหน้าที่กลับถูกปรับออกอันดับต้นๆ

เมื่อถามว่า นพ.ชลน่าน ควรนั่งรัฐมนตรีต่อหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า หากมองแบบใจเป็นกลาง คนเป็นหมอควรได้ดูกระทรวงสาธารณสุขที่สุด เพราะคนที่วิกฤตและลำบากที่สุดตลอดช่วงเลือกตั้ง รวมถึงช่วงเป็นผู้นำฝ่ายค้านตลอด 4 ปี

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า หรือแม้กระทั่งช่วงจัดตั้งรัฐบาลหลังจากพ่ายแพ้ คนที่เหนื่อยที่สุดก็หนีไม่พ้นหัวหน้าพรรคในขณะนั้น ที่ต้องแบกรับทุกสถานการณ์ ทุกอย่างเป็นต้นทุนส่วนตัวที่ต้องแบกรับ แต่เมื่อถึงเวลาตั้งรัฐบาลได้แล้ว สิ่งแรกที่ดำเนินการคือปรับเขาออก ถือว่าน่ากังวลใจอย่างยิ่ง

เมื่อถามว่าเห็นใจนพ.ชลน่านใช่หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ต้องตอบตรงๆ ด้วยความที่เป็นเพื่อนสส. ทำงานพรรคฝ่ายค้านด้วยกันมาตลอด 4 ปี ก็เห็นความตั้งใจ แต่วันนี้พอเป็นรัฐมนตรีว่าการที่ถูกปรับออกคนแรก แบบไม่มีเพื่อน ก็น่าเห็นใจว่า ไหนๆ จะปรับครม.แล้ว ก็อย่าให้อดีตหัวหน้าพรรคถูกกระทำเช่นนั้น

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ควรมีเพื่อนที่ถูกปรับออกบ้าง อย่างน้อยจะได้อ้างได้ว่าเป็นการปรับเพื่อผลัดเปลี่ยน หากไม่นับนายกฯ ถือว่านพ.ชลน่าน เป็นรัฐมนตรีว่าการคนเดียวที่ถูกปรับออก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน