“ภูมิธรรม” โว ข้าว 10 ปี ส่งออกก็ไม่พอแล้ว จ่อเปิดประมูลส่งออกยกกอง ไม่แบ่งขายในประเทศ เผย แอฟริกาต้องการ 1.5 หมื่นตัน วอนหยุดดราม่า หวั่นขายไม่ออก

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีมีนักวิชาการแสดงความเป็นห่วงข้าวหอมมะลิ ในโครงการรับนำจำข้าวนาน 10 ปี อาจมีสารปนเปื้อนสะสมจนทำให้เกิดมะเร็งในอนาคตได้ ว่า ตนได้พิสูจน์ให้เห็นในขั้นตอนแรกแล้วว่า สภาพทางกายภาพข้าวยังดีอยู่ แม้สีจะเปลี่ยนไปบ้าง คุณภาพข้าวอาจไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่สามารถรับประทานได้

“ขออย่าดราม่าเรื่องนี้อีกเลย เพราะเป็นเพียงการสรุปสภาพทางกายภาพของข้าว หากใครต้องการจะตรวจสอบ ก็สามารถมาตรวจสอบได้ ทั้งนี้การตรวจพิสูจน์ดังกล่าว มีทั้งสื่อมวลชน ข้าราชการ รวมถึงเซอร์เวย์เยอร์ ที่เป็นผู้ลงทะเบียนตรวจข้าวไปต่างประเทศที่ต่างชาติยอมรับตามมาตรฐาน

รวมถึงผู้ส่งออก และโรงสี ที่มั่นใจว่าสามารถทำได้และพร้อมประมูล โดยกระบวนการส่งออก เอกชนมีขั้นตอนในการปรับปรุงข้าวอยู่” นายภูมิธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเพื่อให้เกิดความมั่นใจและไม่มีดราม่า ควรให้ทางสาธารณสุขหรือนักโภชนาการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะการวิจารณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับข้าวกว่า 150,000 กระสอบ

ยืนยันว่าไม่ได้ท้าทายใคร แต่ต้องการพิสูจน์เพื่อเตรียมเปิดประมูลให้ได้ราคา โดยคาดว่าสามารถประมูลได้ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้ และหากยังดราม่ากันไม่จบ ตนก็กังวลว่าเราจะเสียโอกาส และไม่สามารถประมูลได้

“ขอให้เชื่อว่าประเทศที่รับซื้อ หรือผู้ค้า-ผู้ส่งออก เจ้าของโรงสี เขาคงไม่นำข้าวเน่าไปขายแน่นอน หากจะขายต้องมั่นใจ และประเทศที่รับซื้อก็จะต้องตรวจสอบอย่างเต็มที่ ขออย่าดราม่าไปมากกว่านี้ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เคารพ เพราะถือว่าได้ทำตามขั้นตอนกระบวนการแรกเสร็จสิ้นแล้ว” นายภูมิธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าข้าวดังกล่าวจะประมูลเพื่อการส่งออกเพียงอย่างเดียวหรือประมูลเพื่อจำหน่ายบริโภคในประเทศ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่งออกอย่างเดียวก็ไม่พอแล้ว โดยเฉพาะในตลาดแอฟริกา ต้องการถึง 15,000 ตัน จึงต้องเป็นการประมูลแบบยกกองทีเดียว ไม่แบ่งขายในประเทศหรือนอกประเทศ

ส่วนกรณีที่เคยมีผู้ชนะการประมูลข้าวดังกล่าวไปแล้ว แต่ไม่มาเอาข้าวออกไปนั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง 4-5 ครั้งแล้ว เพราะราคาข้าวในครั้งนี้สูงมาก เมื่อประมูลแล้วราคากลับตก หากรับไปก็จะต้องขาดทุน จึงเกิดการฟ้องร้องกัน โดยองค์การคลังสินค้า ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง

ยืนยันว่าที่ผู้ประมูลทิ้งข้าว ไม่ใช่เพราะข้าวเน่า แต่เพราะราคาข้าวในปีนั้นราคาตก และการประมูลในครั้งนี้ ตนก็จะเขียนกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนว่าผู้ที่ให้ราคาสูงสุด 5 อันดับแรก มีสิทธิชนะการประมูลข้าว เผื่อกรณีมีผู้สละสิทธิ และสามารถไปตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนได้

ซึ่งข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวนี้ ไม่มีค้างข้างสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว และโกดังดังกล่าวที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ก็เป็นเพียง 2 โกดังสุดท้ายที่เหลือ

เมื่อถามว่ามีการประเมินเบื้องต้นหรือไม่ว่าข้าวในโกดังดังกล่าว หากประมูลแล้วจะมีมูลค่าประมาณเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ราคาข้าวอยู่ที่ 30 กว่าบาท ประมาณว่าสักครึ่งก็อยู่ที่ 15 บาท แต่สุดท้ายประมูลที่เท่าไหร่ก็ต้องไปดู เพียงแต่ตนประเมินว่าครึ่งหนึ่งก็น่าจะได้เท่านี้

ส่วนจะเปิดซองประมูลได้เมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าให้ตนคาดการณ์น่าจะประมาณต้นเดือนมิ.ย.นี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทุกอย่างยุติก่อน เพราะถ้ายังมีคนตั้งคำถามว่า ข้าวเน่าและเสีย แล้วจะประมูลได้อย่างไร เพราะสุดท้ายคนที่ประมูลเขาก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว และเราตั้งใจขายข้าวให้ได้ข้าวมาตรฐานโดยจะเปิดประมูลขาย

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้ทดสอบให้คนที่เกี่ยวข้องมาดูแล้วก็บอกว่าน่าจะทำได้ เวลาประมูลก็ต้องมีกรรมการขึ้นมาประกาศ ตนไม่คิดจะล็อกให้ใคร ไม่ว่าใครที่ประมูลได้ราคาสูงสุด ขอรอดูตอนนั้นดีกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน