วันที่ 15 มี.ค. ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) กล่าวว่า หลังจากได้รับเอกสารจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ท้วงติงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. จึงนำมาพิจารณาและหลายคนปรึกษาตนในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วม 3 ฝ่ายพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ จึงเห็นว่าน่าจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยจะดำเนินการเพื่อไม่ให้กระทบต่อโรดแม็ป เพราะที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาวินิจฉัยไม่เกิน 3 เดือน ประกอบกับร่างกฎหมายลูกเลือกตั้งส.ส. ได้ขยายเวลาการบังคับใช้เผื่อออกไป 90 วันแล้ว ดังนั้น จะยื่นเฉพาะร่างกฎหมายลูกส.ว.

“ขณะนี้อยู่ระหว่างร่วมกันยกร่างว่าจะยื่นในประเด็นใดบ้าง เพราะสิ่งที่นายมีชัย ท้วงติงมา สนช.เห็นว่าบางประเด็นไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ จึงจะยื่นเฉพาะในประเด็นที่น่าสงสัย ส่วนการรวบรวมรายชื่อคาดว่าในวันที่ 16 มี.ค. น่าจะทำทุกอย่างเสร็จสิ้น โดยรายชื่อเบื้องต้นถ้ารวมจากคนที่ไม่เห็นด้วยและงดออกเสียง รวมทั้งบุคคลที่ไม่ร่วมประชุมจะมี 41 คน ทั้งนี้ ผู้ที่ลงมติเห็นชอบก็ร่วมลงชื่อได้ เนื่องจากยังมีบางประเด็นที่ติดใจ แต่ก็จำเป็นต้องลงมติเห็นชอบทั้งฉบับ ดังนั้น สามารถร่วมลงชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ถ้ายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าไม่คุ้ม เพราะกระทบต่อโรดแม็ปเลือกตั้งแน่ อีกทั้งศาลฯ ต้องใช้เวลาพิจารณา 2-3 เดือน หมายความว่าประธานสนช.จะนำร่างกฎหมายลูกส.ส.ส่งให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ได้ ซึ่งจะมีคำถามตามมาว่าถ้าสนช.ยื่นร่างกฎหมายลูกว่าาด้วยการเลือกตั้งส.ส.จะเกิดผลกระทบ ต้องการอย่างนั้นหรือไม่ ซึ่งสนช.ประเมินแล้วว่าไม่น่าใช่ เพราะไม่ต้องการให้เลื่อนเลือกตั้ง เว้นแต่พรรคต่างๆ หรือใครอยากให้สิ้นกระแสความ ก็แจ้งความประสงค์มายังสนช. แต่ขณะนี้ยืนยันว่ายื่นเฉพาะร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน