เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.เพื่อเรียกร้องให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กรณีครอบครองนาฬิกาหรูมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้มีการชูป้ายข้อความเพื่อสะท้อนไปถึง ป.ป.ช. เช่น “ความล่าช้าคือความอยุติธรรม” “ป.ป.ช.ต้องเที่ยงธรรม” “ประชาชนรอคำตอบผงซักฟอกหรือตราชั่ง” โดยนางทิชาได้เขียนข้อความซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้กล่าวไว้ในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นว่า “คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต” ด้วย โดยมีนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นางทิชา กล่าวว่า จากกรณีรถนาฬิกาหรู 25 เรือนมูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาทที่ พล.อ.ประวิตรไม่แจ้ง ป.ป.ช.ตามกฏหมายในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยอ้างว่าเป็นนาฬิกาที่ยืมเพื่อน ต่อมาเลขาธิการ ป.ป.ช.ช่วยอธิบายว่าถ้าทรัพย์นั้นเป็นของเพื่อนไม่ต้องแจ้งต่อ ป.ป.ช. จากนั้นวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรประกาศผ่านสื่อว่าจะลาออกถ้าประชาชนไม่ต้องการ โดยประชาชนได้แสดงความไม่ต้องการ พล.อ.ประวิตร โดยลงชื่อผ่านทาง change.org ถึง 80,018 รายภายใน 16 วัน จนถึงตอนนี้ พล.อ.ประวิตรก็ยังไม่ลาออก และหลังจากที่ พล.อ.ประวิตรส่งคำชี้แจงมายัง ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบกำหนดการขอเลื่อนส่งคำชี้แจงต่อ ป.ป.ช.เป็นครั้งที่ 4 ก็ยังไม่ปรากฏความชัดเจนว่า ป.ป.ช.จะเชิญ พล.อ.ประวิตรมาชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ หรือจะดำเนินการต่อไปอย่างไร สังคมกำลังเคลือบแคลงสงสัยการทำงานของ ป.ป.ช.ในกรณีนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นผู้รวบรวมรายชื่อซึ่งขณะนี้มียอดเข้าชื่ออยู่ที่ 81,148 คนให้ พล.อ.ประวิตรลาออก อยากทวงถาม ป.ป.ช.ว่าเหตุใดยังไม่มีการชี้แจงหรือไม่ยอมแถลงใดๆ ให้ประชาชนรับทราบ ทุกคนอยากรู้ว่า พล.อ.ประวิตรชี้แจงที่มาของนาฬิกาหรูทั้งหมดต่อ ป.ป.ช.อย่างไร สังคมตั้งคำถามว่าถ้าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท่านอื่นจะใช้สิทธิ์เลื่อนได้ถึงขนาดนี้หรือไม่ ประชาชนอยากรู้เหลือเกินว่าเป็นของเพื่อน ของตัวเอง ของขวัญหรือเงินทอนกันแน่
ด้านนายสุทธิ กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสำนวน อยู่ระหว่างการสรุปเรื่องเพื่อส่งให้คณะกรรมการพิจารณาต่อไป เราไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ในกระบวนการยุติธรรมต้องให้เวลาผู้ที่ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงด้วย ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าทางคณะกรรมการจะใช้เวลาพิจารณานานเท่าใด แต่เชื่อว่าจะต้องเร่งให้เร็วที่สุดเพราะประชาชนและสังคมกำลังจับตาดูอยู่
