“ปิยบุตร” แนะ “ชาญ” โชว์สปิริต ลาออก นายก อบจ.ปทุม มองเกิดปัญหาเพราะกฎหมายลักลั่น ชี้เรื่องนี้มี 2 ทางออก ลั่น “ทักษิณ” ช่วยหาเสียง เป็นความสนุกตื่นเต้น

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ปทุมธานี ว่า ตัวเลขออกมาแล้วไม่ว่าจะชนะมากหรือน้อย จะขาดหรือไม่ขาดก็เป็นผลการเลือกตั้งที่ประชาชนตัดสินใจมา พรรคเพื่อไทยที่เสนอนายชาญ พวงเพ็ชร์ ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะ ทุกคนต้องยอมรับกติกา

ส่วนกรณีที่นายชาญ มีคดีค้างเก่าที่ ป.ป.ช. เคยยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และมีการประทับรับฟ้องไว้ หากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จะทำอย่างไรนั้น ตนขอให้ความเห็นทางกฎหมาย แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็นเกี่ยวกับระบบกฎหมายคดีทุจริตของนักการเมืองว่า การออกแบบระบบตอนนี้มันลักลั่น คือถ้าไปสมัครรับเลือกตั้ง แต่มีคดีที่ยังอยู่ในศาล ก็สามารถสมัครได้ แต่ถ้าสมัครแล้วได้เป็น กลับถูกสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคดีแบบนี้ต้องใช้เวลานานเป็น 10-20 ปี

ตนมองว่าสามารถแก้เรื่องนี้ได้ 2 แบบ คือ 1.แก้ด้วยสปิริต ใครที่ได้รับเลือก โดนคดีทุจริตแบบนี้ก็ลาออกเลย เปิดทางให้มีเลือกตั้งใหม่ หรืออย่าไปลงสมัคร ยกตัวอย่างสมัยพรรคอนาคตใหม่ หากพบว่าผู้สมัครของเราโดนคดีแบบนี้เราก็จะไม่ส่ง

2.แก้ด้วยกฎหมายก็จะยุ่งยาก เพราะใครที่โดนคดี หากห้ามลงสมัครเลยก็ไม่เป็นธรรมกับเขา เพราะเขายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็จะมีปัญหาตามมาว่าเป็นการตัดสิทธิ์เกินเหตุ

“ฉะนั้น การแก้ด้วยสปิริตนั้นสำคัญ ถ้าหากโดนกล่าวหาแบบนี้ก็ลาออกเสีย หรือไม่กลับมาลงสมัครอีกแล้ว รอจัดการตนเองให้เสร็จ แต่ในกรณีนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ทางกฎหมายมี 2 แนวทาง คือ 1.แนวของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ครั้งที่แล้วมีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว และได้กลับมาเป็นใหม่ ก็ต้องหยุดต่อเลย โดยที่ไม่ต้องออกคำสั่งใหม่ และแนวที่ 2 คือเขาลงสมัครไปแล้ว ก็ให้เขาเป็นไปก่อน แล้วค่อยสั่งให้เขาหยุดใหม่” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ส่วนอีกประเด็น คือ ควรเอาคำพิพากษามาดู เอาคำสั่งศาลมาดูว่าคดีนี้ศาลไม่ได้สั่งให้นายชาญ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในมาตรา 81 เป็นการหยุดโดยอัตโนมัติ ถ้าศาลรับฟ้องเมื่อไหร่ก็หยุดอัตโนมัติ เว้นแต่ศาลสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งในกรณีนี้ศาลไม่ได้สั่งเป็นอย่างอื่น ก็คือหยุดอัตโนมัติ

ซึ่งถ้าอยู่ต่อเนื่อง คนรักษาการนายก อบจ. จะเป็นปลัด อบจ. แต่ถ้าหากให้นายชาญดำรงตำแหน่งก่อน แล้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง คนรักษาการก็จะเป็นรองนายกฯ อบจ.

ส่วนทางออกเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ตนคิดว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็จะประกาศรับรองถ้าไม่มีเรื่องอื่น แต่ก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่า จะให้หยุดอัตโนมัติหรือให้นายชาญเป็นไปก่อน แล้วให้ผู้ว่าฯ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งข้อกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว ย้ำว่าเรื่องนี้ควรจะเป็นเรื่องของสปิริต ถ้าใช้กฎหมายจะเกิดความลักลั่น

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ช่วยนายชาญนั้น เป็นการประเมินความนิยมหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตอนนี้ยังแค่ 1 จังหวัด ยังตัดสินอะไรไม่ได้ และนายทักษิณ ในความเห็นส่วนตัวมองว่ายังไม่ได้เดินเต็มที่

“ผมคิดว่าการเมืองก็เป็นแบบนี้ ต้องแข่งกัน 2 ฝ่าย มีบุคลากรสำคัญมีคนที่ได้รับความนิยม ต้องนำมาใช้ช่วยเหลือกันเป็นเรื่องปกติ และมองด้วยความสนุกตื่นเต้นว่า อยากให้เป็นแบบนี้แหละ การเมืองในมุมของประชาธิปไตยที่ต้องแข่งขันกันระหว่างหลายพรรค แต่ละพรรคแข่งกันทำประโยชน์นำเสนอนโยบายต่อประชาชน” นายปิยบุตร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน