แสวง โพสต์โต้‘ก้าวไกล’ ปมยื่นยุบพรรค ชี้ ม.92 หรือ ม.93 เป็นบทกม.ให้อำนาจกกต.-นายทะเบียนฯ ยื่นได้ เปรียบกรณียื่นให้สส.-รมต.พ้นสภาพ กม.ก็ให้อำนาจหลายองค์กรยื่นร้องศาลได้เช่นกัน

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบโต้พรรคก้าวไกล ถึงอำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. เลขาฯกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง ต่อกรณีการยื่นยุบพรรคการเมือง สาระสำคัญระบุว่า

1.สถานะ/หน้าที่และอำนาจ กกต. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีหน้าที่จัดเลือกตั้ง เลือก การออกเสียงประชามติ และหน้าที่อื่น ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่น

เลขาฯกกต. เป็นหัวหน้าหน่วยบริหารและธุรการของ กกต. เพื่อให้งานในหน้าที่และอำนาจของ กกต. สำเร็จตามที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตาม กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และมติ กกต. ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขึ้นตรงกับ กกต.

นายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นคนๆ เดียวกับเลขาฯกกต. ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กกต.ไม่ใช่หัวหน้านายทะเบียนพรรคการเมือง และนายทะเบียนพรรคไม่ได้ตรงขึ้นตรงกับ กกต. ต่างคนต่างเป็นอิสระ ต่างทำหน้าที่ตามที่ กฎหมายให้ทำเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์กันในเชิงการบริหารหรือธุรการแต่อย่างใด

2.การทำงาน/ความสัมพันธ์กกต.และ เลขาฯกกต. ทำงานร่วมกัน ในทุกเรื่องเกี่ยวกับงานของ กกต. เพื่อเป้าหมายของงานในหน้าที่และความรับผิดชอบ ของ กกต. ให้บรรลุผลสำเร็จ ตามฐานานุรูปในตำแหน่งที่ดำรงอยู่ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง “ต่างคนต่างทำงาน” ไม่ขึ้นต่อกัน งานจะสัมพันธ์กันก็ต่อเมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองให้ต้องสัมพันธ์กัน กกต.จะมีมติให้ทำนายทะเบียนทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้

3.ตัวอย่างการทำงาน กกต.และเลขาฯกกต. อาทิ การเลือกตั้ง ส.ส. เลือกตั้งท้องถิ่นทุกประเภท งานประชามติ ฯลฯ กกต. เป็นผู้ออกระเบียบ ประกาศ ให้ เลขาฯ ปฏิบัติ มีมติ ให้เลขาฯ ไปดำเนินการในงานข้างต้นได้ทุกเรื่อง เพื่อผลสำเร็จของงาน กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง

อาทิ การเสนอให้ยุบพรรค กกต.ก็มีอำนาจเสนอให้ยุบพรรคโดยลำพังตามมาตรา 92 แต่จะมามีมติ หรือสั่งให้นายทะเบียน พิจารณาดำเนินการเสนอยุบพรรค ตามมาตรา 93 ไม่ได้ เพราะมาตรา 93 เป็นอำนาจเฉพาะของนายทะเบียนพรรคการเมือง

“ดังนั้น การเสนอให้ยุบพรรค ตามมาตรา 92 หรือ 93 จึงไม่ใช่ทางเลือกหรือดุลยพินิจที่ กกต.จะเลือกเพื่อเสนอให้ยุบพรรค ว่าจะใช้มาตราใดสำหรับพรรคใด แต่เป็นบทกฎหมายที่ให้อำนาจเสนอยุบพรรค แก่ 2 องค์กร คือ กกต. หรือ นายทะเบียนพรรคการเมือง และแต่ละองค์กรก็เป็นอิสระต่อกัน ”

เรื่องนี้อาจเทียบเคียงได้กับการพ้นจากการเป็นสมาชิกภาพของ สส. หรือ การพ้นจากตำแหน่งของรัฐมนตรี ที่ให้อำนาจแก่หลายองค์กรในการยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ กล่าว คือ สส. เข้าชื่อกันก็ยื่นได้ กกต.ก็ยื่นได้เช่นกันหากเห็นว่ามีเหตุให้ยื่น เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดให้ต่างคนต่างทำหน้าที่ไม่ขึ้นต่อกัน แต่เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ยื่นแล้ว อีกฝ่ายก็อาจยุติเรื่องก็ได้ เพราะมีการยื่นไปแล้ว

ด้วยข้อกฎหมาย เหตุผลข้างต้น จึงเป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องมาตรฐานหรือไม่มีมาตรฐานแต่ประการใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน