ทรัมป์ชนะ ปชต.เสื่อม?

ใบตองแห้ง

ช็อกไหม ทรัมป์ ชนะ แปลกใจอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นล็อกถล่ม ไม่ถึงกับโลกแตกสลาย เพราะยังไงๆ ทรัมป์ก็คงไม่บ้าถึงขั้นกดระเบิดนิวเคลียร์

แน่ละ พวกเกลียดอเมริกา เกลียดประชาธิปไตยฝรั่ง คงสะใจ สมน้ำหน้า โอบามา ทูตคริสตี้ กลิน เดวีส์ จุ้นกับประเทศไทย ดีนัก เที่ยวมาวิพากษ์รัฐประหาร ระรานละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่คนอเมริกันกลับเลือกทรัมป์ที่เหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ เกลียดผู้อพยพ เกลียดมุสลิม ฯลฯ ที่แท้ก็มือถือสากปากถือศีล เห็นไหม ประชาธิปไตยฝรั่งเสื่อมแล้ว นับแต่นี้ อเมริกาจะถดถอย จีนจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจ เป็นหน้าเป็นตาของคนเอเชีย

ประชาธิปไตยเสื่อมจริงไหม ดูเหมือนใช่ ทรัมป์ มาจากเลือกตั้ง ดูแตร์เต มาจากเลือกตั้ง ในขณะที่คนไทยได้ ลุงตู่ โดยไม่ต้องเลือกตั้ง

แต่ถ้าย้อนมองปรากฏการณ์ทรัมป์ตั้งแต่ต้น ในขั้นไพรมารีโหวต เราเห็นอะไร เห็นคนอเมริกันฮือเลือก ทรัมป์ และ เบอร์นี แซนเดอร์ส ซึ่งเป็นม้ามืดนอกคอกนอกพรรค อย่างพลิกความคาดหมาย ทรัมป์ แหกโผมาได้ทั้งที่พรรครีพับลิกันไม่เต็มใจ แซนเดอร์ส แพ้ ฮิลารี เฉียดฉิว ท่ามกลางความไม่พอใจของคนรุ่นใหม่

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ นักวิชาการเสียงข้างน้อยที่เชื่อมาตลอดว่าทรัมป์จะชนะ อธิบายปรากฏการณ์ทรัมป์ว่า เป็นการปฏิเสธการเมืองกระแสหลัก ทั้งรีพับลิกัน เดโมแครต และสื่อกระแสหลัก ที่เรียกรวมๆ ว่า The Establishment ของมวลชน “รากหญ้า” ที่เบื่อหน่ายความล้มเหลวทั้งทางการเมืองเศรษฐกิจตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

พูดได้ว่านี่คือความพยายามหาทางออกจากระบบเดิมๆ ที่ทำให้สังคมอเมริกันเหลื่อมล้ำสูงมาก คนระดับล่างยากลำบาก ทรัมป์จึงพลิกโผ พลิกโพล พลิกผลดีเบต ที่เคยใช้วัดการเมืองกระแสหลัก ขนาดกลุ่มทุนวอลสตรีตที่เคยเชียร์รีพับลิกันหันไปเชียร์คลินตัน ยังเอาไม่อยู่

เชื่อหรือไม่ ผลสำรวจไม่เป็นทางการ คนไทยในอเมริกาที่แบ่งเป็น 2 ข้าง ฝ่ายเป่านกหวีดส่วนใหญ่เชียร์ ฮิลลารี ฝ่ายที่เป็นแดงกลับเชียร์ ทรัมป์ ไหงเป็นงั้น ฝ่ายเชียร์ ทรัมป์ อธิบายว่าเพราะ ทรัมป์ ดูเป็นลูกทุ่ง จริงใจ ในขณะที่ฮิลลารีดู “ผู้ดีมีระดับ” ซ้ำกองเชียร์ฮิลลารียังมักดูหมิ่นคนเลือกทรัมป์ว่าเป็นพวก “รากหญ้า ไร้การศึกษา รายได้ต่ำ” (ฟังคุ้นๆ)

แน่ละ ปรากฏการณ์ทรัมป์มี 2 ด้าน ในขณะที่ “ประชาธิป ไตยรากหญ้า” ก้าวขึ้นมามีความสำคัญ แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากพลัง “ชาตินิยมฝ่ายขวา” ก็จะทำให้เกิดปัญหา ความขัดแย้ง และความถดถอยบางด้าน แม้ไม่ถึงขั้นที่หวาดกลัวกัน เช่นการที่ทรัมป์เคยพูดเหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ เมื่อขึ้นมาเป็นผู้นำก็ต้องมีวุฒิภาวะ และระบอบประชาธิปไตยอเมริกันก็ไม่ใช่อนุญาตให้ทรัมป์ใช้ ม.44 ตามอำเภอใจ

ข้อสำคัญ คือคนเลือกทรัมป์เพื่อให้แก้ปัญหาปากท้อง ไม่ใช่เห็นพ้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน แม้คงมีผลบ้างเรื่องการปิดกั้นผู้อพยพ เรื่องกลัวมุสลิม และหันไปสนใจปัญหาในประเทศมากขึ้น (ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ที่คนอย่างทรัมป์จะปฏิรูปประเทศลดความเหลื่อมล้ำ แบบทำให้ชาวนารวยใน 5 ปี)

อันที่จริง ถ้ามอง Brexit ก็คล้ายกัน แนวโน้มของพลังอนุรักษนิยมที่ฟื้นคืนในกระแสโลก คือหวนไปสนใจผลประโยชน์ตัวเองก่อน

ภายใต้แนวโน้มนี้ คนเกลียดอเมริกา เกลียดกติกาฝรั่งคง ดีอกดีใจ เพราะอเมริกายุคทรัมป์อาจไม่สนใจถือดาบสิทธิ มนุษยชนมาเที่ยวไล่บี้ใครต่อใคร แต่คงสนใจผลประโยชน์ ตัวเองก่อน ซึ่งได้แก่เพิ่มมาตรการกีดกันทางการค้า (จนหุ้นตกทั่วโลกนี่ไง เศรษฐกิจไทยจะกระทบแค่ไหนยังไม่รู้ แต่ในระยะสั้น ไม่เป็นผลดีแน่นอน)

คำถามคือ คนไทยดีใจใช่ไหม ถ้าระเบียบโลกที่กำหนดโดยฝรั่งตะวันตก เรื่องเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานไม่เป็นธรรม การย่ำยีชนกลุ่มน้อย ฯลฯ ล่มสลายไปพร้อมความเสื่อมของพวกตาน้ำข้าวทั้งหลาย

พวกที่เห็นสหภาพยุโรปช่วยผู้ลี้ภัยเป็นล้านๆ แล้วนั่งสะใจ ว่านั่นไง กรรมสนองพวกจักรพรรดินิยม (โดยที่ตัวเองไม่เคยช่วยใครขึ้นจากทะเล) คงดีใจใช่ไหม ถ้าโลกเปลี่ยนไป อเมริกาเสื่อมถอย จีน รัสเซีย ยิ่งใหญ่ เปลี่ยนกติกาใหม่เป็นผลประโยชน์ใครผลประโยชน์มัน แต่ละประเทศไม่ยุ่งเกี่ยวกัน จะเข่นฆ่า ย่ำยี ละเมิดหลักนิติรัฐ ฆ่าตัดตอน ศาลทหาร ฯลฯ ก็เรื่องในบ้าน

เอางั้นก็ได้นะครับ แต่ก่อนที่จะเชียร์จีนเป็นมหาอำนาจ ขอลดดอกเบี้ยรถไฟความเร็วสูงจาก 2% เหลือ 0.3% เท่าญี่ปุ่นได้ไหม ไม่ใช่เชียร์จีนสะใจฝรั่งโดยเราไม่ได้อะไร (นอกจากได้นับญาติเชื้อสายจีน) ขาดทุนอีกต่างหาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน