ศิริกัญญา ชี้งบโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต หากยังไม่ชัดเจน สภาฯไม่ควรอนุมัติ แนะให้รอก่อนแล้วค่อยออกเป็น พ.ร.บ.โอนงบฯ เพื่อแจกให้ครบ 45 ล้านคน

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 3 ก.ย.2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ปรับลด 7,824,398,500 บาท โดยพิจารณาเรียงรายมาตรา

โดยเข้าสู่การพิจารณามาตรา 6 งบกลาง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อยขอสงวนความเห็น อภิปรายว่า ตนขอปรับลดงบประมาณลง 1.52 แสนล้านบาท ในมาตรานี้มีงบประมาณเพิ่มเติม 1.8 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงรายการจากการใช้หนี้ธนาคารรัฐ 3.5 หมื่นล้านบาท

แต่ตนขอตัดเฉพาะในส่วนของการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ อีก 3.5 หมื่นล้านบาท ขอให้นำกลับไปชำระหนี้ของธนาคารของรัฐตามเดิม ด้วยเหตุผลว่าเราทราบดีว่า งบประมาณในส่วนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจที่งอกขึ้นมา ถูกนำไปใช้ในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

ตอนนี้มีความชัดเจนมากขึ้นหลังเปลี่ยนรัฐบาลว่า ในเฟสแรก จะเปลี่ยนจาก ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเงินสด ไปแล้ว 14.5 ล้านคน ซึ่งใช้งบประมาณในปี 2567 กว่า 1.45 แสนล้านบาท โดยมาจาก 2 ส่วนคือ พ.ร.บ.เพิ่มเติมงบประมาณปี 2567 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท อีกก้อนคือใช้งบกลางอีก 2.3 หมื่นล้านบาท เราควรจะเลิกเรียกว่า ดิจิทัลวอลเล็ต ได้แล้ว เพราะไม่มีดิจิทัลและวอลเล็ตแล้ว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังต้องหาเงินมาอีก 3.05 แสนล้านบาท ซึ่งวันนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่เข้าใจว่าวันนี้ยังไม่มีรัฐบาล ยังไม่มีการแถลงนโยบาย เราจึงไม่มีทางรู้ว่าเงินก้อนที่เหลือจะแจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ หรือจะแจกเป็นเงินสด จะแจกเท่าไหร่ เมื่อไหร่ ดังนั้น จึงไม่รู้ว่าเราจะมาพิจารณางบประมาณเพื่ออนุมัติก้อนนี้ไปเพื่ออะไร

แต่หากจะทำให้ได้ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดไว้ เราต้องการเงินเพิ่มอีก 3.05 แสนล้านบาท วันนี้ที่เราพิจารณากันอยู่มีงบประมาณที่เราพิจารณาไว้ตั้งแต่วาระ 1 จำนวน 1.52 แสนล้านบาท อยู่ในกระเป๋า อีกก้อนมาจากการเบี้ยวหนี้ ชักดาบธนาคารรัฐ 3.5 หมื่นล้านบาท เรียกว่าหน้ามืดแล้ว มีเงินตรงไหนเหลือก็ขอไปล้วง ไปควักออกมาให้หมด

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ครบ 3.05 แสนล้านบาทอยู่ดี ยังขาดอีก 1.17 แสนล้านบาท เท่ากับคน 12 ล้านคน ที่ตอนนี้ยังหน้าซิ่วหน้าขวานว่าจะหาเงินจากที่ไหนมาจ่ายให้ประชาชนจนครบ หากยังไม่ครบแล้วท่านจะไปตัดงบธนาคารแห่งรัฐมาก่อนทำไม

หลายโครงการมีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ เช่น โครงการจำนำสินค้าเกษตรปี 2552 โครงการประกันรายได้ สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ รวมถึงตัดงบของธนาคารออมสิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่ใช้ในโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ตัดนิดตัดหน่อยก็จะเอา เพื่อรวมเงินให้ได้

แต่รวมได้แค่ 3.5 หมื่นล้านบาท และเป็นงบที่มาอย่างประหลาด เพราะในชั้นอนุ กมธ. ก็ไม่มีอนุฯ ไหนตัด เพื่อรวมเงินนำไปใช้ในโครงการเติมเงิน ทั้งนี้ ที่ปรับลดนั้น ลอยมาหลังจากอนุกมธ.พิจารณาเสร็จสิ้น ในคราวที่ครม. มีมติให้โอนเงินเพื่อใช้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า สภาฯ ไม่จำเป็นต้องเห็นชอบเงินจำนวน 1.2 แสนล้านบาทเพื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ใช่หรือไม่ และเงินที่จะใช้ก็ยังมีไม่เพียงพอ ฉะนั้น ตนจึงมีข้อเสนอว่าควรรอให้แถลงนโยบายให้จบก่อน แล้วค่อยมาออกเป็นพ.ร.บ.โอนงบประมาณ ก็ยังทัน เพราะยังมีเวลา ให้ประชาชนรอมาได้ปีกว่า ให้รออีกหน่อย เพื่อให้รัฐบาลไปออกร่างพ.ร.บ.โอนประมาณ โดยตัดงบกระทรวงของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อใช้ดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อแจกให้ครบ 45 ล้านคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน