มท.1 กำชับไฟฟ้าและเครือข่ายมหาดไทย สื่อสารเชิงรุกให้ครัวเรือนมีผู้ป่วยติดเตียง ต้องใช้เครื่องมือแพทย์ทราบเกณฑ์ช่วยเหลือ ไม่ตัดไฟกรณีค้างชำระค่าไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีในโซเชียลมีเดียมีการเรียกร้องถึงพนักงานบริษัทเอกชนรับหน้าที่จากสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อ.วังยาง จ.นครพนม อ้างทำตามหน้าที่ตัดไฟฟ้าบ้านของ นางเกียน อายุ 68 ปี ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงเครื่องดูดเสมหะ และเตียงลม ทำให้ยายเจ้าของบ้านอาการทรุดและเสียชีวิต หลังค้างชำระ 2 เดือน รวมประมาณ 1,500 บาทนั้น

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ได้ให้ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น ทางผู้ว่าการ กฟภ.ได้จัดทำรายงานข้อเท็จจริงมายังกระทรวงมหาดไทย รวมถึงชี้แจงผ่านสื่อมวลชนให้ประชาชนเข้าใจขั้นตอนดำเนินการต่างๆ แล้ว และ กฟภ.ได้มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตเบื้องต้น ขณะที่ทางญาติก็มีความเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบขั้นตอนและไม่ติดใจกับการงดจ่ายไฟของ กฟภ.

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แม้ตามรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กฟภ. จะพบว่าช่วงเวลาที่ผู้ป่วยเสียชีวิตนั้น ไม่ใช่ช่วงที่มีการงดจ่ายไฟ และไม่อาจระบุได้ว่าการงดจ่ายไฟเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่นายอนุทิน ยังคงห่วงใยครอบครัวเปราะบางที่มีผู้ป่วยติดเตียง จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์การแพทย์ตลอดเวลา ที่ไม่ควรมีความเสี่ยงใดๆ จากบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่นกรณีของไฟฟ้า

ด้วยปัจจุบัน กฟภ.ได้มีเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือไม่ตัดกระแสไฟฟ้ากับสถานที่หรือบ้านที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว นายอนุทิน จึงกำชับให้ทั้ง กฟภ. รวมทั้งเครือข่ายกลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนอย่างมาก

อย่างอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ครอบครัวที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ รู้ถึงเกณฑ์การช่วยเหลือที่ กฟภ.มีให้ เพราะปัจจุบันอาจจะมีประชาชนทราบเกณฑ์นี้ในวงจำกัด

“เมื่อทางการไฟฟ้ามีมาตรการช่วยเหลือครัวเรือนที่มีผู้ป่วยอยู่แล้ว รมว.มหาดไทย จึงกำชับเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยที่ใกล้ชิดประชาชน ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์บอกเล่า ให้ครอบครัวที่มีผู้ป่วยทราบถึงสิทธิตรงนี้ และเรื่องนี้ต้องทำให้เป็นความรู้ในวงกว้าง เนื่องจากประเทศไทยเป็นสังคมสูงอายุมีแนวโน้มที่จะมีผู้ป่วยติดเตียงมากขึ้นๆ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

สำหรับหลักเกณฑ์ยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้า หรือไม่ตัดกระแสไฟฟ้าของ กฟภ.ในปัจจุบันนั้น ผู้ใช้ไฟที่มีผู้ป่วยในบ้าน สามารถติดต่อลงทะเบียนที่สำนักงานของ กฟภ.ในพื้นที่ทุกแห่ง โดยมีเอกสารสำหรับลงทะเบียน ได้แก่ 1.บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า 2.บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วย หรือสำเนา

3.ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล มีอายุไม่เกิน 1 เดือน ที่ระบุว่าผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล 4.หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือสำเนาทะเบียนบ้านสถานที่ใช้ไฟฟ้า 5.ในกรณีที่มอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐานแสดงตัวของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ

โดย กฟภ.จะให้ยื่นลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิต่อเนื่องภายในวันที่ 31 ม.ค.ของทุกปี และในกรณีไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์แล้ว จะต้องแจ้งยกเลิกกับกฟภ. ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความจำเป็น

อย่างไรก็ตาม กฟภ.จะยกเลิกสิทธิในกรณีดังนี้ได้ 1.ค้างชำระค่าไฟฟ้ารวมกัน 3 เดือน 2.ตรวจพบการกระทำโดยมิชอบ/การละเมิดการใช้ไฟฟ้า 3.แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือ 4.ตรวจพบผู้ป่วยยกเลิกการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ แต่ไม่มีการแจ้งยกเลิกกับ กฟภ.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน