วันที่ 9 เม.ย. ที่อาคารข่าวสด นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงนายนิพิษฐ์ อินทระสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ว่าการเมืองปัจจุบันเหลือ 3 ขั้วคือเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และขั้วของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯว่า ถือเป็นแนวคิดของแต่ละบุคคล แต่พรรคเราทำงานมีขั้วเดียว คือขั้วประชาชน และการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ต้องดูที่นโยบายเป็นหลัก ประชาชนจะตัดสินว่าจะให้ขั้วไหนเป็นขั้วไหน แต่นาทีนี้คงเร็วไปที่จะพูดว่าเป็นขั้วไหน
ทั้งนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาไม่เคยคิดมีขั้ว เรายึดนโยบายการทำงาน ความเป็นไปได้ และทำงานให้ประชาชนเป็นหลัก แต่การคิดในแง่ต่างๆ ของแต่ละพรรคนั้นเป็นสิทธิที่จะวิเคราะห์กัน
เมื่อถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนายังยืนยันที่จะมีนายกฯเป็นคนในอยู่ใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ตามกติกาของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเราเป็นพรรคที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งเข้ามาในครั้งแรกก็ต้องเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯที่มาจากพรรค โดยพรรคชาติไทยพัฒนาเราจะเสนอชื่อบุคคล 1-2 คน ให้เป็นนายกฯ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อถึงเวลานั้น ต้องดูว่าแต่ละพรรคไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ภูมิใจไทย ชาติพัฒนา เสนอใครเข้ามาแล้วตกลงกันได้หรือไม่ หากตกลงกันได้ก็จบ
ส่วนที่พยายามให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเป็นนายกฯคนในนั้น แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ก็ยินดี จะได้ไม่ต้องมานั่งเกี่ยงกันว่าเดี๋ยวนอกเดี๋ยวใน ตนไม่ยึดติดคนนอกหรือคนใน เพราะ 6-7 ปีที่แล้วก็เรียกร้องนายกฯคนนอก แต่พอมาวันนี้ก็เรียกร้องนายกฯคนใน อีก 7 ปีจากนี้ไป จะเรียกร้องเอาคนนอกอีกหรือไม่ ดังนั้น การเลือกตั้ง แต่ละยุคสมัยสถานการณ์ไม่เหมือนกัน จะใช้กระแสเป็นตัวตัดสินไม่ได้ แต่ต้องยึดหลักการที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ
“ยืนยันว่ายังไม่มีสัญญาณจากรัฐบาลว่าจะให้สนับสนุนของพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่กปปส.ระบุไม่มีพรรคใดจะหนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกรอบนั้น ถือเป็นมุมมองของแต่ละพรรคจะหนุนใคร ผมเชื่อว่ายังไม่มีพรรคใดตกลงกันได้ทั้งนั้น เพราะพรรคยังไม่สามารถเรียกประชุมได้ การพูดออกมาแต่ละครั้งจึงเป็นความเห็นส่วนบุคคล และตอนนี้เรายังเชื่อมั่นตามโรดแม็ปว่าจะมีเลือกตั้งในเดือนก.พ. 2562 เพราะยังไม่มีสัญญาณทำให้ต้องเลื่อนออกไป และเราเป็นผู้ที่ทำงานในสนาม คงจะไปคิดอะไรตามกระแสไม่ได้ วันนี้มีการพูดชัดเจนว่าเดือนก.พ. 2562 จะมีเลือกตั้งก็ต้องตามนั้น จนกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น” นายวราวุธ กล่าว
