โฆษกกต. เผยภาพรวมประชุมอาเซียน สปป.ลาว นายกฯ ทวิภาคีร่วมผู้นำ เร่งแก้ยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ควันข้ามแดน และการบริหารจัดการน้ำโขง – รมว.กต.ร่วมเวทีย่อยชงประเด็นเข้าที่ประชุมผู้นำ
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันนี้ (9 ต.ค.) ที่ศูนย์ข่าว นครหลวงเวียนจันทร์ว่า
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุม 3 การประชุมของระดับรัฐมนตรีฯ ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM), การประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมือง และความมั่นคงอาเซียน (APSC) ครั้งที่ 28 และการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ACC) ครั้งที่ 35 ซึ่งการประชุมทั้ง 3 การประชุมข้างต้น เป็นการหารือ เพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ ครั้งที่ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง และเป็นการติดตามความคืบหน้าประเด็นสำคัญ ความร่วมมือสำคัญ และประเด็นคั่งค้างต่าง ๆ โดยในที่ประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน ได้หารือในหลายประเด็นอย่างเปิดกว้าง และสร้างสรรค์
อาทิ การเสริมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อยังประโยชน์ไปสู่ประชาชนเป็นหลัก การส่งเสริมความร่วมมือการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ความร่วมมือด้านบริหารจัดการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกอาเซียน และติดตามความคืบหน้าการสร้างประชาคมอาเซียน ซึ่งผลการหารือในระดับรัฐมนตรีฯ จะนำเสนอไปสู่ที่ประชุมผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และครั้งที่ 45 เพื่อรับรองต่อไป
นอกจากนั้น ในโอกาสการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมคณะการเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี โดยได้หารือเรื่องสำคัญๆ กับรัฐบาล สปป.ลาว ทั้งนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว, นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่ง สปป. ลาว และนายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว โดยได้ขอบคุณฝ่ายลาว ที่ถวายการรับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อเดือนมกราคม 2567 อย่างสมพระเกียรติ และไทย และ สปป.ลาว ยังเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ไทย-สปป.ลาว โดยเน้นกิจกรรมระหว่างประชาชนและท้องถิ่น ทั้ง 2 ฝ่าย
นายกรัฐมนตรี ยังได้หารือทวิภาคีร่วมกับผู้นำ สปป.ในหลายประเด็นทั้งการแก้ไขปัญหาข้ามแดนต่าง ๆ ได้แก่ ยาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ หมอกควันข้ามแดน และการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่ง สปป.ลาว ถือเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และเป็นเส้นทางขนส่งสำคัญ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไทย-ลาว หารือกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และให้เชื่อมโยงฐานข้อมูล และระบบการแจ้งเตือนล่วงหน้า
โดยเฉพาะปัญหาอุทกภัย โดยมีการลงนาม MoU ด้านการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ เพื่อการแบ่งปันข้อมูล และการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง และลำน้ำสาขาอย่างเป็นระบบ พร้อมยังเห็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น ทั้งการป้องกัน และบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นทุกปีจากผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการร่วมมือกันในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกันอย่างยั่งยืน
ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทั้งไทย และ สปป.ลาว ได้มีการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ (Operation Room) เพื่อติดตามสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันที่แขวงบ่อแก้วและแขวงไซยะบูลี และมีความร่วมมือในการดับไฟป่า ระหว่างจังหวัดเชียงราย กับแขวงบ่อแก้ว ซึ่งไทยพร้อมขยายความร่วมมือไปยังพื้นที่อื่น ๆ และจะมีการเปิดตัวแผนปฏิบัติการภายใต้ CLEAR Sky Strategy ระหว่างไทย กับ สปป.ลาว และเมียนมาในเดือนตุลาคมนี้ โดยในระยะต่อไปจะให้มีการเชื่อมโยงข้อมูล และระบบเตือนภัยคุณภาพอากาศของไทย สปป. ลาว และประเทศในภูมิภาคเข้าด้วยกัน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยถึงการหารือระหว่างไทย-สปป.ลาว เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ว่า ทั้งไทย-สปป.ลาว ได้เร่งรัดการจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ online scams ตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว โดยขอให้มีการประชุมคณะทำงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์นั้น เห็นพ้องให้ผู้แทนระดับสูงของตำรวจไทย และลาวหารือกัน เพื่อนำไปสู่การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาดโดยเร็ว ซึ่งไทยพร้อมเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนาสังคมมิตรภาพไทย-ลาว ที่เมืองไซทานี แขวงเวียงจันทน์ เพื่อเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน โดยจะส่งมอบให้ฝ่ายลาวได้ภายในปีหน้า
