กระแสการเมืองร้อนฉ่าขึ้นอีกระลอกกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายประเด็น และยังมีดราม่าเรื่อง ‘ไอแพดการทูต’ ว่อนโซเชี่ยลให้นายกฯ ว้าวุ่นใจ ขณะที่บรรดาบิ๊กข้าราชการหลายคนต่างสมหวังหลัง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไฟเขียวการแต่งตั้ง-โยกย้ายล็อตใหญ่
5 ตุลาคม
-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอบคุณนิตยสาร Time จัดให้เป็น 1 ในผู้นำทรงอิทธิพลแห่งอนาคตหลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในเอเชีย
6 ตุลาคม
เป็นดราม่ายาวหลายวันกับโลกโซเชี่ยลที่วิจารณ์น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไปประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 (ACD) ที่รัฐกาตาร์ ก้มอ่านสคริปต์ จากไอแพด ไม่มีภาวะผู้นำ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทยชี้แจงว่าผู้นำทุกชาติ อ่านทั้งจากเอกสาร หรือไอแพด กันหมด เพราะระวังความผิดพลาด
ส่วนน.ส.แพทองธาร โพสต์ไอจีสวนกลับชาวเน็ต “รบกวนดูข่าว+หาข้อมูลเยอะๆ เวลาประชุมแบบนี้ ทั่วโลกเค้าอ่านกันค่ะ…ขอให้เปิดใจและลดอคติ จะมีความสุขขึ้น”
7 ตุลาคม
-‘บิ๊กต่าย’ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ฉลุยเป็นผบ.ตร.คนใหม่ หลังนายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุมก.ตร.เคาะชื่ออย่างราบรื่น เป็นผบ.ตร.คนที่ 15 แทนพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมลที่เกษียณอายุราชการเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาซึ่งบิ๊กต่ายจะเกษียณอายุราชการ 1 ต.ค.69
-โดนจองกฐินปลุกม็อบไล่ข้ามปีทั้งจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำนปช. บรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยเย้ยว่าปลุกไม่ขึ้นแน่นอน ส่วนนายกฯ แพทองธาร บอก“ขอทำงานก่อน จะตั้งใจทำงานให้เต็มที่และขอกำลังใจด้วย” ต่อมาตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นั่งที่ปรึกษาของนายกฯ เจ้าตัวยอมรับผิดคำพูดปม‘มีลุงไม่มีเรา’ แต่ต้องอยู่กับความจริงของสถานการณ์ให้ได้ พร้อมยืนยันไม่ได้ เข้ามาสยบม็อบ
-หลังมีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ บ้านใหญ่บุรีรัมย์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งนายอนุทินเลี่ยงตอบหลายหน แต่เมื่อถูกถามหนักจึงยอมรับชวนนายเนวินไปจริง กินข้าวกันอย่างแฮปปี้ ปิดฉากร้าวในอดีตที่นายเนวิน เคยพูดใส่ นายทักษิณว่า ‘มันจบแล้วครับนาย’ และยืนยันไม่ได้คุยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ไม่มีเรื่องนายกฯ คนละครึ่ง
8 ตุลาคม
-นายกฯ นำคณะเยือนสปป.ลาวอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องระหว่าง 8-11 ต.ค. ในการหารือกับนายกฯ สปป.ลาว ได้จับมือเร่งปราบยาเสพติด-แก๊งคอล-ค้ามนุษย์-หมอกควัน-บริหารจัดการแม่น้ำโขง
-ที่ประชุมครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊ก มหาดไทยและผู้ว่าฯ 25 ตำแหน่ง ที่ถูกโฟกัสเป็นสายบ้านใหญ่บุรีรัมย์ผงาดคุมกรมใหญ่นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ จากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นอธิบดีกรมการปกครอง
นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ จากผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ยืนยันไม่มีสายใคร มีแต่สายมหาดไทย
-ครม.ยังเห็นชอบแต่งตั้ง นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นเลขาธิการสมช. และเห็นชอบแต่งตั้งที่ปรึกษานายกฯ อีก 5 ราย คือ นายชัยเกษม นิติสิริ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร นายจักรพงษ์ แสงมณี
-นักร้องขาประจำ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ตรวจสอบน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่งตั้ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นรองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ทั้งที่ศาลฎีกาเคยสั่งจำคุกมาแล้ว เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และผิดจริยธรรมหรือไม่ หากมีมูลขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยโดยเร็ว
9 ตุลาคม
-ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติท่วมท้น 348 เสียง เห็นชอบ 0 เสียง งดออกเสียง 65 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง แย้งแก้เกณฑ์การออกเสียงประชามติสองชั้นของวุฒิสภา ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกัน 28 คน ซึ่ง ‘งดออกเสียง’ ทั้งหมดเป็นสส.พรรคภูมิใจไทย จากที่มีทั้งหมด 71 คน
โดย 6 คน คือ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง รองประธานสภาไม่ลงคะแนนตามมารยาท อีก 5 คนไม่ปรากฏการลงมติใดๆ ต่อมาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้เหตุผลเพื่อปกป้องสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง มั่นใจไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล
-คณะกรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีตากใบ ที่จะหมดอายุความ 25 ต.ค.นี้ สรุปว่า จำเลยคดีตากใบมี 14 คน ขณะนี้อยู่ในไทย 12 คน และคาดว่าอีก 2 คนอยู่ต่างประเทศ ซึ่ง 1 ใน 2 คือพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ลาประชุมสภาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ภายใน 25 ต.ค. ทางอัยการยืนยันว่าจะยื่นฟ้องได้แน่นอน
10 ตุลาคม
-นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาตามนัด กับคำขู่ 10 ต.ค. รู้แน่นอน เหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นไปถึงบทจบของพรรคแกนนำรัฐบาลและอาจถึงขั้นล่มสลาย โดยเปิดประเด็นตั้งแต่ 7 โมงเช้าว่า จะมีผู้ร้องนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย(พท.) แต่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ แค่พอทราบว่าเขาจะทำเรื่องนี้ จึงตีปี๊บให้ได้ติดตามกัน
-เวลา 10.30 น. นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยสั่งให้นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 มีคำร้อง เอกสารประกอบ และสำเนา รวมทั้งสิ้น 5,080 แผ่น
ยก 6 พฤติการณ์ เข้าข่ายเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน หวั่นว่าหากปล่อยจะเป็นมหันตภัยที่ไม่อาจต้านทานได้ ปัดเป็นมือปืนรับจ้าง แต่ยอมรับปรึกษาข้อกฎหมายกับนายไพบูลย์
-พรรคใหม่มีมติขับ นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน และพรรคพลังสังคมใหม่ขับ นายเชาวฤทธิ์ขจรพงศ์กีรติ พ้นพรรค เปิดทางให้เข้าสังกัดพรรคกล้าธรรมของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ได้สมดังใจ ทำให้พรรคกล้าธรรมประเดิมมีสส.บัญชีรายชื่อทันที ด้วยฝีมือการดูดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ
11 ตุลาคม
-นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นร้องเรียนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพฤติกรรมการไปต่างประเทศของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ช่วงเดือนมี.ค.-ส.ค. รวม 8 วัน แบบกินหรูอยู่สบาย เข้าข่ายรับทรัพย์เกิน 3,000 บาทหรือไม่
-นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ประชุมสภากลาโหมนัดแรก สั่งแก้ระเบียบคุ้มครองทหารเกณฑ์ และเตรียมคัดเลือกครูฝึกที่อายุน้อยทันต่อโลก ส่วนครูฝึกเก่าจะเปลี่ยนแปลงให้ไปทำหน้าที่อื่นต่อไป เพื่อไม่ให้มีทหารเกณฑ์ถูกซ้อมทรมานเกิดขึ้นอีก
เกาะติดสถานการณ์สัปดาห์หน้าต่อไป
