พิเชษฐ์ แจงวุ่น ชิงปิดประชุมสภา ยื้อโหวตรายงานนิรโทษกรรม ยันไม่ได้เลือกข้าง

พิเชษฐ์ แจง ชิงปิดประชุมสภา ก่อนลงมติรายงานนิรโทษกรรม สัปดาห์หน้าค่อยว่ากันใหม่ ยันไม่ได้เลือกข้าง ต่อให้ กมธ.ชี้แจงอีกกี่ชั่วโมงก็เหมือนเดิม จวกอย่าเอาสถานการณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2567 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์กรณีสั่งปิดประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ระหว่างจะลงมติรับหรือไม่รับรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาพิจารณาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ชัดเจนแล้วว่ามี 2-3 พรรคที่ประกาศตัวว่าไม่เห็นด้วย ขณะที่อีกฝ่ายคือพรรคประชาชน (ปชน.) อยากให้ลงมติ ซึ่งกรรมาธิการฯ ก็อยากชี้แจงเพื่อให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยยอมรับ

แต่ทุกอย่างก็ชัดเจนแล้ว ฝ่ายที่ไม่ยอมรับก็คือไม่ยอมรับ คนที่อยากให้ผ่านก็อยากจะให้ผ่าน ต่อให้จะชี้แจงอีกกี่ชั่วโมงก็เหมือนเดิม กรรมาธิการฯชี้แจงมาเต็มที่ จะชี้แจง 2-3 รอบทำไม ทำให้ประธานในที่ประชุมต้องใช้วิจารณญาณ ว่าจะปล่อยให้เกิดความซ้ำซากเช่นนี้ได้อย่างไร

สุดท้าย ตนจึงถามว่าสรุปแล้วจะลงมติเลยหรือไม่ เพราะข้อมูลก็ซ้ำไปซ้ำมา แต่ถามทางกรรมาธิการฯ เขาก็ยังอยากชี้แจงอยู่ ไม่อยากให้ลงมติ และส่งชื่อมา 6-7 คน แต่ละคนจะพูดกี่นาที ย้ำว่าต่อให้ชี้แจงอีกกี่คนก็เหมือนเดิม เพราะตัดสินใจกันไปแล้ว หากให้ชี้แจงอีกก็จะตอบโต้กันไปมา และที่จริงข้อมูลพร้อมที่จะตัดสินใจแล้ว

นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เวลาของวันพฤหัสบดี สส.บางคนก็เตรียมกลับบ้าน จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว ลำพังเอาตามใจตัวเองบางคนอยู่ถึงเที่ยงคืนก็ได้ แต่มันไม่ใช่ เราต้องอยู่ในความพอดี

ตนในฐานะประธาน ต้องควบคุมและถามว่าตกลงคุณจะโหวตหรือไม่ ทุกอย่างชัดเจนหมดแล้วจะพูดอะไรอีก ฉะนั้น ตนคิดว่าตัดสินใจถูกต้องแล้ว สัปดาห์หน้าเปิดมาก็มาว่ากัน ไม่ต้องชี้แจงแล้ว เปิดมาก็โหวตเลย หากรายงานนี้ไม่มีความขัดแย้ง ก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อมีความขัดแย้ง เราก็ต้องโหวตว่าสรุปแล้วจะส่งรัฐบาลหรือไม่

“สัปดาห์หน้าก็มาว่ากันใหม่ ไม่มีปัญหา ไม่มีบอกว่าเป็นพรรครัฐบาล ตรงนี้ไม่เกี่ยว ผมอยู่ตรงนี้ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครทั้งนั้น ผมเป็นประธาน ไม่ได้มองว่าเป็นพรรคนั้นพรรคนี้หรืออะไร ในสถานการณ์เช่นนั้น อย่าเอาตัวเองมาเป็นที่ตั้ง ตัวเองอยากได้อะไรแล้วไม่ได้ เพราะมีคนขัดใจมันไม่ใช่ ผมไม่ได้เข้าข้างใคร” นายพิเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหากสัปดาห์หน้านำรายงานนี้กลับเข้ามาใหม่ และกรรมาธิการฯ ยังคงยืนยันที่จะสรุปร่างก่อน ประธานในที่ประชุมสามารถให้กรรมาธิการฯ ชี้แจงก่อนได้หรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า แล้วแต่ประธานประชุมวันนั้นว่าจะตัดสินใจอย่างไร ไม่น่ามีปัญหา มันจบได้ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย จะส่งให้รัฐบาลหรือไม่

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเสนอญัตติด่วนขึ้นมาเพื่อยื้อเวลาลงมติ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ร่างรายงานนิรโทษกรรมก็ต้องต่อเนื่องอยู่แล้ว เมื่อจบแล้วจึงจะเสนอญัตติ ซึ่งแล้วแต่ที่ประชุมจัดเสนอกันหรือไม่

ส่วนเรื่องต่างๆ ที่รออยู่ในวาระการประชุมนั้น แล้วมีการบอกว่าเรื่องนั้นหรือเรื่องนี้จะเข้าไม่ทัน มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการประชุมสภาฯ และเป็นกระบวนการ เราจะเอาของเราเป็นหลักไม่ได้ หากไม่ทันสมัยนี้ก็ไปพิจารณาต่อสมัยหน้า เราจะทำอย่างไรได้หากทุกคนก็ต้องการของตัวเอง