ผู้นำชีอะห์แห่งประเทศไทย ร้องประธานสภา เหตุนักศึกษาไทยในอิหร่านถูกเจ้าหน้าที่สนามบิน รังแก-เหยียด ชี้อาจมีรับจ้าง มองทำให้เกิดความบาดหมางไทย-อิหร่าน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ต.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ เป็นตัวแทนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ รับยื่นหนังสือจากนายไซยิด สุไลมาน ฮุไซนี ผู้นำชีอะห์แห่งประเทศไทย เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีนักศึกษาไทยที่ศึกษาในประเทศอิหร่าน ถูกเจ้าหน้าที่คุกคามที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นายไซยิด กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งคุกคามและเหยียด โดยเกรงว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศ เนื่องจากมีนักศึกษาไทย เรียนที่ประเทศอิหร่าน เดินทางกลับประเทศไทย หลายคนถูกกักตัว 2-3 ชั่วโมง และตรวจค้นโดยอ้างว่าเป็นการตรวจค้นด้านศุลกากร

ทั้งที่นักเรียน มีแต่เสื้อผ้า หนังสือเรียนและของฝากอย่างขนมกลับมา แต่ถูกตรวจค้นอย่างละเอียด และมีการสอบถามอย่างไม่เหมาะสมและดูหมิ่นประเทศต้นทาง อย่างเช่น อยู่อิหร่านแล้วทำไมไม่อยู่เลย กลับมาทำไม รับงานอะไรมาหรือไม่ ทางอิหร่านฝากอะไรมาบ้าง ซึ่งจากคำถามเข้าใจได้ว่าหมายถึงอาวุธ ตนก็ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่คิดว่าขีปนาวุธเขาขนส่งกันในกระเป๋าเดินทางได้หรืออย่างไร ซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว

โดยตนก็รู้จักและมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้หลักผู้ใหญ่ของฝ่ายความมั่นคง เราก็ช่วยเหลือประเทศไทยเรื่องความมั่นคงด้วยกันมา ล่าสุดที่เราใช้ความสัมพันธ์กับประเทศในเขตตะวันออกกลางเจรจาช่วยปล่อยตัวประกันชาวไทยออกมาได้ แต่การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมอันนี้ ทำให้รู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะร้องเรียนให้ประธานรัฐสภาช่วยดูแลให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.) ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องกฎหมาย เรื่องความเป็นธรรม เพื่อจะหยุดการถูกรังแกแบบนี้ ที่อาจจะนำไปสู่ความบาดหมางระหว่างประเทศได้

นอกจากนี้ทุกครั้งที่ตนถามไปยังผู้ใหญ่ จะได้รับคำตอบว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจได้รับจ้างมา ซึ่งไม่ได้เป็นคำสั่งจากหน่วยงานของไทย ซึ่งเรารู้มาบ้างว่ามีบางประเทศที่เป็นศัตรูกับอิหร่านก็ได้ใช้เจ้าหน้าที่แทนพวกเขาด้วย

นายมุข กล่าวว่า ในกรณีนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น และน่าเสียดายเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง มาหาเรื่อง ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาค้นขนาดที่นายไซยิด ได้กล่าวมา จะบอกว่าหวาดระแวงประเทศอิหร่านในเรื่องอะไร เพราะไม่เคยมีปรากฎว่าอิหร่านสนับสนุนผู้ไม่หวังดีในไทย ก็ไม่เคยมี ไม่น่าจะหวาดระแวงว่านักศึกษานำอะไรเป็นภัยกลับมาด้วย

ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้ง แต่กลั่นแกล้งแบบนี้ไม่ใช่เด็กนักศึกษาเดือดร้อนแล้ว เพราะถ้าเข้าสู่กมธ.ยุติธรรม จะต้องเรียกมาสอบถาม หากเป็นความจริง เจ้าหน้าที่จะต้องรับผิดชอบ และถ้าความเป็นธรรมยังคงมีอยู่ ไม่มีการช่วยเหลือลูกน้อง ลูกน้องเหล่านี้ก็มีสิทธิ์โดนไล่ออกหรือระงับการปฏิบัติหน้าที่

เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ทำลายความรู้สึก แต่ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนไทยด้วยกัน และทำลายความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศอิหร่าน เรียกได้ว่าไม่มีอะไรดีเลย มีแต่สร้างความเสียหาย เจ้าหน้าที่ที่มีสามัญสำนึกไม่ควรทำ หากรับจ้างมาจริง ควรรู้ว่าไม่คุ้มที่จะเอาความเสียหายของประเทศมาแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ ถ้าตนเป็นหัวหน้า ตนไล่ออกแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน