ศาลรธน. มีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง ‘วัฒนา อัศวเหม’ กรณีให้ชี้ขาดคำพิพากษาขององค์คณะผู้พิพากษา ปมทุจริตคลองด่าน ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2567 ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณากรณี นายวัฒนา อัศวเหม (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กล่าวอ้างว่าการกระทำของ องค์คณะผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิต ในการพิจารณาและพิพากษาคดีอาญา คดีหมายเลขดำที่ 654/2547 คดีหมายเลขแดงที่ 3501/2552 และการกระทำขององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา ในการพิจารณาและพิพากษาคดีอาญา คำพิพากษาที่ 8068/2560
ในคดีเกี่ยวกับการทุจริตก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 28 วรรคสามและมาตรา 188 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 391 (5) และมาตรา 185 วรรคหนึ่ง หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า การกระทำขององค์คณะผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิตและองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา ในการพิจารณาและพิพากษาคดีอาญาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 28 วรรคสาม และมาตรา 188 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4) และมาตรา 185 วรรคหนึ่ง
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องเกิน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือวันที่พ้นกำหนดเวลาที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 46 วรรคหนึ่ง
ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย