ที่ประชุม “ครม.” มีมติเห็นชอบ ทบทวนร่างพ.ร.ฎ. 2 ฉบับ แก้ปมที่ดินทำกินในเขตอุทยานฯ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สางปัญหาม็อบพีมูฟ

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 12 พ.ย. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบทบทวนร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) โครงการอนุรักษ์ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ มาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562

และร่างพ.ร.ฎ.โครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามมาตรา 121 ของพ.ร.บ.คุ้มครองและสงวนสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เพื่อพิจารณาผลกระทบ และมีประชาชนมายื่นเรื่องเรียกร้องที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลแก้ไข โดยร่างทั้ง 2 ฉบับมีการบังคับใช้มานานจึงต้องมีการทบทวน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างพ.ร.ฎ. ทั้ง 2 ฉบับ กำหนดให้มีโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ไม่มีกำหนดระยะเวลา 20 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้ เพื่อให้ประชาชนอยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว

โดยมีการกำหนดเขตพื้นที่อยู่อาศัยและทำกินให้ชัดเจน ไม่ให้ขยายพื้นที่อีก และกำหนดให้โครงการดำเนินการในพื้นที่ตามที่ระบุไว้ในบัญชีแนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ซึ่งมีแนวเขตโครงการที่กำหนดไว้ในแผนที่ท้าย จำนวน 6 แห่ง

ซึ่งสอดคล้องกับแผนที่วันที่มีข้อยุติแล้ว ได้แก่ อุทยานแห่งชาติมีจำนวน 4 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว, อุทยานแห่งชาติตาดหมอก จ.เพชรบูรณ์ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ, อุทยานแห่งชาติเขา 15 ชั้น จ.จันทบุรี และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 2 แห่ง คือ เขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง จ.เพชรบูรณ์ และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

โดยผู้ที่จะอยู่อาศัยและทำกินจะต้องอยู่ภายใต้โครงการ และมีรายชื่อตามผลสำรวจการถือครองที่ดินของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ทำเสร็จไปแล้วครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ และในกรณีที่มี 2 ครอบครัวขึ้นไป ซึ่งทำกินอยู่ในสถานที่ทำกินเดียวกัน ให้อยู่อาศัยหรือทำกินได้ไม่เกิน 40 ไร่

และผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำกินในโครงการดังกล่าว จะแบ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดิน สมาชิกในครอบครัว โดยต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม เช่น เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยไม่มีที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัย ไม่เคยต้องคำพิพากษา หรือถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำลายป่าหรือการล่าสัตว์สัตว์ป่า

นอกจากนั้น ผู้ที่ครอบครองไม่สามารถโอนการครอบครองหรือยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวหรือครัวเรือนเข้ามาอยู่อาศัยทำกินไม่ได้ และผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำกิน ต้องมีหน้าที่ดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ แถลงว่า ก่อนจะนำร่างพ.ร.ฎ. ทั้ง 2 ฉบับ เข้าสู่ที่ประชุมครม. รัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับประชาชนผู้มาร้องสิทธิ์

โดยที่ประชุมได้ผ่านความเห็นชอบพ.ร.ฎ. 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.ฎ.โครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 และพ.ร.ฎ.โครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามมาตรา 121 แห่งพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562

โดยมีสาระสำคัญ คือ การช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน และสามารถอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าได้ โดยประชาชนเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ในที่ดินทำกิน โดยจะมีอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ลพบุรี และเพชรบูรณ์ และเรื่องนี้รัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสิทธิ์ที่จะได้มาโดยตลอด

นายประเสริฐ กล่าวว่า นายภูมิธรรม ได้สั่งการในที่ประชุมครม. ให้รีบดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ. วนอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่ มาแก้ไขกฎหมายอีก 2 ฉบับให้สมบูรณ์ขึ้น มอบหมายให้คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว

“ขณะนี้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาของประชาชน ซึ่งโครงการและพระราชกฤษฎีกา ทั้ง 2 ฉบับเป็นประโยชน์กับประชาชน” นายประเสริฐ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน