อนุทิน เปิดสัมมนาความปลอดภัยทางถนน ย้ำความสำคัญ การรับรู้ในสถานการณ์ ตื่นตัว ตระหนัก รับผิดชอบ ชี้ต้องทำอุบัติเหตุให้เป็น 0 เพราะหนึ่งชีวิตก็เป็นเกรด F แล้ว

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 16 (16th Thailand Road Safety Seminar) ภายใต้แนวคิด สานพลังเข้มข้น สร้างกลไกเข้มแข็ง เพื่อถนนไทยปลอดภัย : Road Safety Stronger Together

นายอนุทิน กล่าวเปิดสัมมนาว่า ไม่ว่าตนจะทำหน้าที่ในตำแหน่งใด ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยทางถนนมาตลอด โดยคำนึงถึง 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.การสร้างจิตสำนึกในความปลอดภัยและความเข้าใจในกฎจราจร 2.การบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด 3.การพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานของถนน เส้นทางสัญจร และสัญญาณจราจร 4.การบำรุงรักษาสภาพของรถยนต์ให้มีความปลอดภัย อยู่ในสภาพดีเสมอ

ในประเทศไทยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เราร่วมมือกันดูแลเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

นายอนุทิน กล่าวว่า เราร่วมกับรัฐบาลทั่วโลก ประกาศทศวรรษที่ 2 แห่งความปลอดภัยทางถนน (The second Decade of Action for Road Safety 2021-2030) มีห้วงเวลา 10 ปี ซึ่งวันนี้เราผ่านไป 4 ปีแล้วตามมติสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน อย่างน้อยร้อยละ 50

โดยประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายในการลดอัตราผู้เสียชีวิตให้เหลือ 12 คนต่อประชากร 100,000 คน ภายในปี 2570 ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางท้องถนนให้กับนานาประเทศ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า แต่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ รวมถึงการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นมาตลอด เป็นสาเหตุของการเกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร แม้กระทั่งในกลุ่มเด็กและเยาวชน เรามีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 59% และในวัยทำงาน 28%

ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ ซึ่ง 1 ใน 5 จากค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนอยู่ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ส่งผลต่อตัวเลขความสูญเสียทางโอกาสและเศรษฐกิจและชีวิตของคนในชาติเป็นจำนวนมหาศาล

หมายความว่า สิ่งที่เราทำมาโดยตลอดนี้ยังไม่เพียงพอและยังไม่บรรลุเป้าหมาย ยังมีภารกิจที่เราจะต้องร่วมมือทำกันอีกมาก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด เพื่อรักษาชีวิตของพี่น้องประชาชนของเรา

นายอนุทิน กล่าวว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนต้องอาศัยการบูรณาการรณรงค์ร่วมมือของทุกภาคส่วน ต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอ เพราะมูลเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงต่อการสูญเสียเพิ่มมากขึ้น และทุกวันนี้อุปกรณ์การช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อลดภาระของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะก็เพิ่มมากขึ้น มีระบบออโตเมติกต่างๆ จนบางที เราใช้ Situation awareness หรือการใช้สัญชาตญาณเพื่อให้เกิดความปลอดภัยลดน้อยลง

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ดังนั้น Situation awareness หรือความระมัดระวังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับเรา ในสภาพรอบตัวเรา ควรมีไว้ตลอดเวลา

นายอนุทิน กล่าวว่า หลายคนทราบดีว่าเมื่อมีอุบัติเหตุทางถนนไม่ว่าสาเหตุใด มันนำมาซึ่งความเศร้าโศก สลด หดหู่ใจ เสียกำลังใจ ดังนั้น ตราบใดที่เรายังมีภารกิจหน้าที่ที่ต้องดูแลงานด้านนี้อยู่ ตนขอให้ทุกท่านอย่าได้เสียกำลังใจ และต้องสร้างกลไกต่างๆ เพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้ได้อุบัติขึ้นซ้ำเป็นครั้งที่ 2

เราต้องใส่ใจตลอดเวลาว่ามันไม่มีแม้กระทั่ง 1% ที่เราจะยอมให้เกิดความเสี่ยง ขณะเดียวกันผู้ขับขี่ผู้ใช้ยวดยานบนถนน คนขับก็ต้องคิดว่า เราไม่ได้รับผิดชอบชีวิตเรา เรารับผิดชอบชีวิตทุกคนที่อยู่หลังพวงมาลัยเรา ดังนั้น เราต้องทำให้เป็น 0 เพราะหนึ่งชีวิตก็เป็นเกรด F แล้ว เป็นเป้าหมายที่เราทำได้

จากนั้นนายอนุทิน ได้รับมอบข้อเสนอความปลอดภัยในการเดินทางของเด็กและเยาวชนจากกลุ่มเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยและเครือข่ายเยาวชน Road Safety Idol เขตสุขภาพที่ 7 มอบรางวัล Prime Minister Road Safety Award จำนวน 6 ประเภท คือ

1.หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ 1.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2.กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค 3.สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร 4.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดศรีสะเกษ 5.ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอกมลาไสย 6.องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์

2.หน่วยงานสถานศึกษา ได้แก่ 1.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช 2.สถาบันจัดการปัญญาภิวัฒน์ จ.นนทบุรี 3.โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ จ.นครราชสีมา 4.โรงเรียนเทศบาล 2 (คลองจิหลาด) จ.กระบี่

3.หน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ 1.เทศบาลตำบลโพนสูง จ.ร้อยเอ็ด 2.เทศบาลตำบลบางจะเกร็ง จ.สมุทรสงคราม 3.ศูนย์ปฏิบัติการทางถนน อบต.นาเคียน จ.นครศรีธรรมราช 4.ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน อบต.กุแหระ จ.นครศรีธรรมราช 5.ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน อบต.กุดเสลา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 6.อบต.ดอนคา จ.สุพรรณบุรี

4.ประเภทหน่วยงานภาคเอกชน 1.บจก.อีสเทิร์นซีบอร์ดอินดัสตรี้เอสเตทระยอง 2.บจก.อินเตอร์เนชั่นแนลเอ็นแอนด์เอช (ประเทศไทย) 3.บจก.ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ 4.บมจ.ธนชาตประกันภัย 5.บจก.อาร์อาร์ที ออร์โตโมทีฟ (ประเทศไทย) 6.บจก.โตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) 7.บจก.ไทยฮอนด้า 8.บจก.บอส ออร์โตโมทีฟ (ประเทศไทย)

5.ประเภทบุคคล 25 ราย อาทิ นายไกรสร กองฉลาด นายวันชัย คงเกษมจ นายสุวัฒน์ เข็มเพชร นายวิทยา จันทน์เสนะ นายบรรจง โพธิวงศ์ นางธัญวรรณ ศรีรัตนโชติ นพ.อำนวย กาจีนา นพ.ปรีชา เปรมปรี รศ.ดร.วีรพล ทองมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน