ภูมิธรรม สั่งปราบยาเสพติดเด็ดขาด ย้ำ ทหาร-ตำรวจ ซีลชายแดน สกัดกั้นปราบปรามจริงจังทุกรูปแบบ รับรุกแหล่งผลิตยาชนกลุ่มน้อยไม่ได้ ขอความร่วมมือรัฐบาลพม่าช่วย
30 พ.ย. 67 – ที่สถานีตำรวจภูธรภาค 5 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงาน ของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ที่ห้องประชุม พระพุทธประทานยุทธบารมี ชั้นสอง อาคารตำรวจภูธร ภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อเดินทางมาถึง รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม รับการเคารพจากกองเกียรติยศ ก่อนเข้าสักการะพระพุทธประทานยุคบารมี พร้อมวางพวงมาลา อนุสรณ์สถานตำรวจผู้กล้าแห่งล้านนา ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ
โดย พ.ต.อ.อดุลย์ ศรีจันทร์ต๊ะ รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 5 ได้รายงานสถานการณ์น้ำ และความคืบหน้า พื้นที่บุกรุกลำน้ำปิง เพื่อขุดขยายแม่น้ำป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ จะส่งผลให้ที่ดิน 32 ไร่ของตำรวจภูธรภาค 5 ถูกตัดไปเหลือเพียง 21 ไร่ เหลือร้อยละ 65.5 เปอร์เซ็นต์
จากนั้น รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ได้ชมวิดีทัศน์ รับฟังการบรรยายสรุปการปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรม อาชญากรรมทางไซเบอร์ ก่อนกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า หัวใจสำคัญการปฏิบัติงานคือสร้างความมั่นใจให้ตัวเองในการทำหน้าที่เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ ในช่วงไฮซีซัน ประเทศไทยรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว อยากให้ช่วยกันสร้างความปลอดภัยในทุกมิติ ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีทันสมัยเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน
ส่วน เรื่องยาเสพติด รัฐบาลได้มอบเป็นนโยบายไว้แล้ว ทุกคนก็รับทราบดีว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของประเทศเหนือกว่าปัญหาปากท้อง เข้าถึงทุกครัวเรือน เป็นภัยกับทุกประเทศมีพรหมแดนติดต่อกันได้ตระหนัก ในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนที่ผ่านมา ตนได้พบกับผู้นำประเทศลาว ได้หารือกัน เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวที่ติดต่อกันซึ่งมีความพยายามเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ไปยังภาคอีสาน
“ผมอยากเห็นการปราบปรามยาเสพติดที่จริงจัง ในส่วนกองทัพได้ให้นโยบายโดยเฉพาะกองกำลังผาเมืองต้องซีลชายแดนให้ได้ มีมาตรการป้องกัน เพราะเรื่องนี้เจ้านายชั้นสูง ห่วงใยอยากเห็น ขณะพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน มีแหล่งผลิตยา อยากฝากแก้ปัญหาเรื่องนี้เด็ดขาด โดยเฉพาะชายแดนเชียงใหม่ เชียงรายหนักหน่อย หากสามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ” นายภูมิธรรม กล่าว
อยากให้ใช้การสกัดกั้นปราบปรามทุกรูปแบบ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการด้านชายแดน ทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดแบบถาวร และตนลงพื้นที่ค่ายนอแล ซึ่งปัจจุบันมีปัญหากลุ่มว้าแดง ยาเสพติด
สำหรับการทลายแหล่งผลิตยาเสพติดและแหล่งพักคอย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยนั้น ยืนยันว่า เราตั้งมั่นในพื้นที่ของเรา แต่ยอมรับว่า การประสานงานในทางปฏิบัติยากพอสมควร จนกลุ่มน้อยมีรัฐบาลกลางอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของความขัดแย้งภายในประเทศของเขา เราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในส่วนนั้น แต่เราได้ขอความร่วมมือจากรัฐบาลพม่าให้ช่วยเข้าไปดูแลในเรื่องนี้ หากรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของเรา เราก็ไม่ยอม
เมื่อถามว่า รัฐบาล มีนโยบาย กวาดล้างและปราบปรามยาเสพติดเด็ดขาด จะส่งผลกระทบพื้นที่ตามแนวชายแดนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พื้นที่ชายแดนเกี่ยวข้องกับชนกลุ่มน้อยค่อนข้างมาก แม้ว่าเขาจะมีความจำเป็นหรือยากลำบากก็แล้วแต่ แต่เรื่องยาเสพติดเป็นสิ่งต้องห้าม สำหรับประเทศไทย นำเข้ามาไม่ได้ เพราะฉะนั้น ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน เป็นเรื่องที่จะต้องปกป้อง เรามีหน้าที่ป้องกันภัยคุกคามทุกอย่างของประเทศ
“ยืนยันว่า ไม่ใช่การตั้งรับ ตอนนี้เรารุกถึงชายแดน จะเรียกว่าตั้งรับได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องต่างประเทศของเขา เราจะบุกเข้าไปในพื้นที่เขาไม่ได้ เราทำได้เพียงซีลชายแดนของเรา ส่วนมาตรการ ปราบปรามจับกุม เรามี ปปส.ดำเนินการอยู่แล้ว เรียกว่าเป็นการตอบสนองเชิงรุก เพื่อจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง” นายภูมิธรรม กล่าว