เลขาฯกกต. มองเหตุยิง ‘สจ.โต้ง’ เป็นเรื่องส่วนตัว เชื่อไม่กระทบเลือกตั้งอบจ. แต่ไม่ประมาท สั่งเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2567 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น นายแสวง บุญมี เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงเหตุยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่จ.ปราจีนบุรีว่า น่าจะเป็นเรื่องการเมืองในพื้นที่ เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งสำนักงานกกต.ไม่กังวลในเรื่องนี้
ความผิดที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกฎหมายอื่น แต่เมื่อไหร่เข้ามาสู่ระบบการเมือง เราต้องดูตามกฎหมายเลือกตั้งที่เราดูแลอยู่ ส่วนความขัดแย้งอย่างอื่นที่จะส่งผลต่อการเลือกตั้ง เราก็ดูแลอยู่ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา และคิดว่าไม่น่าจะกระทบ
เมื่อถามว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะเหตุที่เกิด น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ผอ.กกต.จังหวัด ได้รายงานมาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในข่าวระบุว่าเกี่ยวกับการที่จะเลือกนายกอบจ. เราก็จะติดตามดูว่ามันจะมีผลอะไร
แต่ข้อมูลวันนี้ยังคิดว่าไม่มีผลกระทบต่อการบริหารจัดการเลือกตั้ง และการควบคุมให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม แต่เรื่องการออกไปใช้สิทธิของประชาชนเป็นโจทย์ของสำนักงานฯ เพราะเราต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้สิทธิในวันที่ 1 ก.พ. 2568 ให้มากที่สุด รวมถึงจังหวัดอื่นๆ
“เรามีหน้าที่บริหารจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องความรุนแรงอะไร เรามีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขาดูแลอยู่แล้ว คิดว่าทางผู้รับผิดชอบคงดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว”
นายแสวง กล่าวอีกว่า ยังมีนายกและสมาชิกอบจ. ทยอยลาออก ซึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นผลมาจากกฎหมาย ที่กำหนดห้ามไม่ให้นายกเป็นสมาชิกอบจ.ไปทำการใดๆ ที่จะเอื้อให้ได้รับเลือกตั้ง ซึ่งเขาก็เกรงว่าอาจจะไปทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง ทั้งที่บางเรื่องเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เกรงว่าอาจจะมีคนนำมาร้อง จึงตัดปัญหาด้วยการลาออก
แม้กฎหมายจะกำหนดให้ให้ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วันกรณีตำแหน่งว่างลง แต่เมื่อเป็นการลาออกในช่วงเวลาที่ใกล้จากครบวาระของสภาอบจ. กกต. ก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันเดียวกับที่สภาอบจ.ครบวาระ คือเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.2568 เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่ต้องออกมาเลือกตั้งหลายรอบ
เมื่อถามว่าสภาผู้แทนราษฎร พยายามเสนอแค่กฎหมาย ให้มีการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อให้มีผู้ใช้สิทธิมากเท่ากับการเลือกตั้งระดับชาติ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องการให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเป็นหน้าที่ของสำนักงานฯกกต.จะต้องทำงานหนัก ร่วมกับเครือข่าย และผู้สมัครเอง ก็ต้องช่วยกันในการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเราไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ถ้ามีการใช้สิทธิน้อย แสดงว่ากกต.ทำงานไม่เข้าเป้าหรือบกพร่อง
ส่วนที่จะให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้ายังเป็นแนวคิด ซึ่งปรัชญาในการเลือกตั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นแตกต่างกัน จึงมีการออกแบบกฎหมาย ให้การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าเหมือนกับการเลือกตั้งสส.