นายกฯ ถก 5 ผวจ.ใต้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ยันรัฐบาลแก้เร็ว-จ่ายเยียวยาไว ส่งกำลังใจถึงประชาชน ชี้ไม่เกิน 20 ธ.ค.น้ำแห้ง กำชับสาธารณูปโภค พร้อมรับคนกลับบ้าน
เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 17 ธ.ค.2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าฯนครศรีธรรมมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอให้การต้อนรับ
ก่อนนายกฯ ออกเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กอ 5817 นครศรีธรรมราช ไปยังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายกฯ เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช ขณะที่ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ผู้ว่าฯชุมพร พัทลุง ผู้ว่าฯนราธิวาส เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากต้องอยู่ดูแลพื้นที่
นายกฯ กล่าวว่า ดีใจมากที่มีโอกาสได้มานครศรีธรรมราช และทราบว่าผู้ว่าฯทุกจังหวัด ต้องอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลพื้นที่ให้ดี ที่ผ่านมารัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดและได้รับรายงานโดยตรงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกหน่วย ฉะนั้น ถือว่าเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ทุกคนสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วมากๆ
รัฐบาลได้ลงพื้นที่ทันทีตอนที่เกิดน้ำท่วมในช่วงแรก ถือว่าเป็นความช่วยเหลือที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และได้รับรายงานอีกประมาณไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค. น้ำน่าจะแห้งทั้งหมด เพราะวันนี้มีฝนตกแค่ในช่วงเช้า ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่าปัจจัย 4 ในการช่วยเหลือประชาชนเพียงพอ และสิ่งที่มีความสำคัญตั้งแต่ตอนเกิดน้ำท่วมภาคเหนือและภาคอีสาน รัฐบาลให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นสิ่งแรก ที่เราจะต้องรักษาและดูแลเรื่องนี้ให้ดี
นายกฯ กล่าวว่า ปัจจัย 4 อาหาร ยารักษา รองนายกฯจัดการทั้งหมดและทุกกระทรวงส่งความช่วยเหลือเข้ามา ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนและทุกหน่วยงานที่ลงดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาได้มอบให้กระทรวงมหาดไทย ปภ. บริหารจัดการสถานการณ์ระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน เร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับเป็นปกติ นอกจากนี้ เครื่องมือที่มีไม่เพียงพอ ทางกระทรวงมหาดไทยได้ประสานหน่วยงาน ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ
“ขอให้กำลังใจทุกคน เหตุการณ์ใกล้จะผ่านไปแล้วและการเยียวยาถึงมือประชาชนแล้ว 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเร็วและดีมากๆกว่าตอนที่เราอนุมัติงบเยียวยาในภาคเหนือ ที่ขณะนี้เยียวยาไปได้แล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์ที่ยังต้องยืนยันตัวตน” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่มีสถานการณ์น้ำท่วม ที่ภาคเหนือ จนถึงภาคใต้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากนายกฯ โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน ในการคลายทุกข์บรรเทาทุกข์ โดยนายกฯ ได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉิน ช่วยเหลือประชาชนด้วยความรวดเร็ว และลงไปในพื้นที่ ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน
การได้ลงพื้นที่ ประชาชนอดทนและเข้าใจ รวมถึงซาบซึ้งที่รัฐบาลได้เร่งจัดการแก้ไข ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องอื่นมากไปกว่าการที่นายกฯได้ลงมือปฎิบัติ จนกระทั่งสถานการณ์ได้เลื่อนลงมาจากภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคใต้ ซึ่งในภาคใต้จะประสบปัญหาเรื่องการไหลหลากของน้ำ รวมถึงดินโคลนถล่มหากน้ำระบายได้สถานการณ์น้ำจะกลับคืนสู่ปกติโดยเร็วที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่สุด นายกฯไม่ได้ชะลอเรื่องการช่วยเหลือประชาชน โดยได้ติดตามสถานการณ์ระหว่างเยือนมาเลเซีย ตนในฐานะผู้บัญชาการสถานการณ์ขอขอบคุณนายกฯ
ด้านนายกฯ กล่าวว่า เข้าใจประชาชนเวลาที่ต้องรอมันยาวนาน รัฐบาลจึงเร่ง และนี่เป็นสิ่งที่อย่างน้อยรัฐบาลได้ช่วยสนับสนุน เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์แล้วได้อนุมัติงบลงไป ก็เกิดความอุ่นใจและไม่ต้องรอลุ้นว่าเมื่อได้รับผลกระทบแล้วจะได้รับเงินเยียวยาเท่าไหร่ ทั้งนี้ ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งขอขอบคุณ ครม.และทุกภาคส่วน ไม่ว่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ จิตอาสาต่างๆ เพราะเวลาเกิดสถานการณ์น้ำท่วมไม่ว่าที่ไหน เมื่อเราระดมความช่วยเหลือจะลดทอนสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และได้เห็นน้ำใจของคนไทยยามยาก
นายกฯ กล่าวว่า ขอเน้นย้ำว่าชีวิตของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ว่าอาหารยา สถานที่พักพิง หรือศูนย์พักพิง ขอให้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ให้รู้สึกสบายกายและสบายใจ เพราะการที่เขาย้ายออกจากบ้านตัวเอง ก็ลำบากอยู่แล้ว จึงขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด เมื่อเหตุการณ์บรรเทาลง จะได้กลับบ้าน และมีแรงซ่อมแซมบ้าน หากติดขัด รองนายกฯ อยู่หน้างานสามารถประสานทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้ หากขาดเหลืออะไร ก็ขอให้บอกมา
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัย การแจ้งเตือนภัยขอให้ชัดเจน และทั่วถึง โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทั้งจ.สุราษฎร์ธานี สงขลา ตรัง สตูล และยะลาการแจ้งเตือนขอให้ทั่วถึงชัดเจน และคาดการณ์ไว้ว่าในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ สถานการณ์จะดีขึ้น ขอให้ระดมความช่วยเหลือทั้งน้ำและไฟ ขอให้กลับมาโดยเร็วที่สุด อะไรที่ทำล่วงหน้าได้ ก็ให้ทำเผื่อไว้ เมื่อน้ำไปแล้ว ทุกอย่างจะได้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ขอให้วิกฤตนี้ผ่านไปโดยเร็วที่สุด