ประธาน กกต. ระบุไม่มีอำนาจสั่ง ‘ทักษิณ’ ให้ข้อมูลปมยุบเพื่อไทย เผยจัดสัมมนาพรรคการเมือง จะมีจนท.กกต.ร่วมสังเกตการณ์ ตามขั้นตอนต้องส่งรายละเอียดให้ กกต.ทราบอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2567 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือให้ กกต.พิจารณาและวินิจฉัยตรวจสอบข้อเท็จจริงงานประชุมสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นวิทยากร ใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองในทางที่ถูกต้องหรือไม่ ว่า เรื่องนี้มีกระบวนการตรวจสอบ
ก่อนจะทำกิจกรรมด้านใด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนดให้พรรคการเมืองเสนอกิจกรรมให้ กกต.รับทราบก่อน ส่วนเมื่อจัดกิจกรรมแล้วใช้งบประมาณไปเท่าใดนั้น ต้องยื่นรายการให้กับ กกต.ทราบ โดย กกต.จะมีคณะกรรมการตรวจสอบ หากเห็นว่าถูกต้องก็ไม่มีปัญหา ซึ่งรายละเอียดหลังการจัดงานนั้น มีขั้นตอนปฏิบัติว่าจะต้องรายงานให้ กกต.รับทราบ
ทั้งนี้ ในช่วงที่พรรคการเมืองจัดกิจกรรมจะมีเจ้าหน้าที่ กกต.ไปร่วมสังเกตการณ์ หากจัดกิจกรรมในช่วงไตรมาสใด ก็ต้องรายงานที่ประชุมกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองทราบภายในไตรมาสนั้น
เมื่อถามถึงความคืบหน้าคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย กรณีนายทักษิณ ครอบงำพรรคได้ส่งหนังสือเชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยชี้แจงข้อมูลแล้วหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กระบวนการของ กกต. หากมีการร้องเรียนจะมีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาว่าคำร้องมีมูลหรือไม่
จากนั้นเรื่องนี้จะถูกส่งไปยังเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง หากพบมีมูลเลขาธิการ กกต.ก็จะสั่งให้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ รวมถึงเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องให้ถ้อยคำ เมื่อเห็นว่ารวบรวมข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะสรุปความเห็นส่งให้เลขาธิการ กกต.เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ กกต.
ขณะที่การประชุม กกต.เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) พบมี 4 คำร้อง และได้เชิญผู้ร้อง 4 คนให้ข้อมูล และเชิญผู้ถูกร้องมาให้ข้อมูลด้วย แต่ไม่ทราบว่ามาให้ข้อมูลเมื่อไหร่
เมื่อถามว่านายทักษิณ จำเป็นต้องมาชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ นายอิทธิพล กล่าวว่า กกต.ไม่ได้มีอำนาจสั่งว่าต้องมาให้ข้อมูล แต่เห็นว่าการให้ข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ร้อง รวมถึงพรรคการเมือง