เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ออกมาโจมตีผู้ที่วิจารณ์นายกฯ สะท้อนให้เห็นว่าโฆษกประจำสำนักนายกฯ ไม่เข้าใจประเด็น และไม่ตระหนักว่าอะไรที่นายกฯ ควรพูดและไม่ควรพูดกับประชาชน การใช้คำพูดของนายกฯ ในลักษณะคาบลูกคาบดอกนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ คำพูดของบุคคลระดับนายกฯ นั้นมีความสำคัญ เพราะสะท้อนถึงนโยบายของประเทศ และจะเป็นแนวทางให้ผู้เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติตาม จึงต้องระมัดระวังคำพูด อะไรที่พูดแล้วกระทบความเชื่อมั่นหรือทำให้เกิดความคลุมเครือเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่จะคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน นายกฯ ย่อมไม่ควรพูด สิ่งที่นายกฯควรพูดให้ชัดเจนคือ โรดแม็ปหลังการออกเสียงประชามติ ว่าหากผ่านหรือไม่ผ่านแล้วท่านจะทำอะไรต่อไป ประชาชนควรได้รับทราบข้อมูลอย่างพอเพียงว่าการโหวตในแบบต่างๆ จะส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่เก็บงำไว้และรับรู้กันเฉพาะคนไม่กี่คน แล้วค่อยบอกให้ประชาชนรู้ทีหลัง
“ท่านนายกฯ ทราบหรือไม่ว่าขณะนี้มีประชาชนจำนวนมาก ยังไม่เข้าใจเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ และไม่กล้าซักถามเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะทำผิดกฎหมาย ดังนั้นรัฐบาลต้องเปิดพื้นที่และส่งเสริมให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ทั้งข้อดีและข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญ ไม่อย่างนั้นการตัดสินใจของประชาชนจะไม่มีคุณภาพ เพราะไม่ได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอ นายกฯควรดูตัวอย่างการลงประชามติในประเทศที่พัฒนาแล้ว และควรส่งเสริมบรรยากาศเช่นนั้นให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงก่อนการลงประชามติ ส่วนโฆษกรัฐบาลก็ควรทราบไว้ด้วยว่านายกฯ เป็นบุคคลสาธารณะ สามารถถูกวิจารณ์ได้เสมอ และควรจำให้ขึ้นใจว่าการใช้เวทีของรัฐบาลในการตอบโต้ทางการเมืองเพื่อประจบเจ้านายนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน” ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าว