สภาฯ ถกญัตติด่วน ค้ามนุษย์ “สส.พรรคประชาชน” แซะรัฐบาล ไทยเป็นฮับอาชญากรรมข้ามชาติ แม้แต่นายกฯ ยังโดนหลอก จี้ยกเป็นวาระแห่งชาติ
เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 16 ม.ค. 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นวาระกระทู้ถาม มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการค้ามนุษย์
โดยนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม (ปธ.) นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน (ปชน.) และนายทรงยศ รามสูต สส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อเสนอต่อไปยังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ
นายกัณวีร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวกับผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศชาติ ซึ่งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คาสิโน หรือสแกมเมอร์ที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยประเทศไทยเป็นทั้งประเทศต้นทาง ประเทศกลางทาง และประเทศปลายทางที่มีผลกระทบต่อการนำพาและการค้ามนุษย์
ปัจจุบันเรากำลังเผชิญหน้ากับขบวนการมาเฟียระดับโลก ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ฉลาด และเดินนำประเทศไทยไปสามก้าว ประเทศไทยเราอยู่ตรงกลางเป็นไข่ดาว มีเพื่อนบ้านทั้งสามประเทศที่มีเรื่องเกี่ยวกับคาสิโน ธุรกิจออนไลน์ต่างๆ รวมถึงคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ เราช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ออกมาได้ 2 คน หลังจากที่เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยได้มาพูดคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ ซึ่งการช่วยเหลือได้เพียง 2 คนไม่เพียงพอ เพราะยังมีคนอีกจำนวนมากที่ถูกหลอกไปเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
การเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อเป็นเรื่องยาก แต่ที่ผ่านมาเรามีการบูรณาการในการทำงานกันหรือไม่ มีการติดต่อกับประเทศปลายทางที่เขายังมีเหยื่อการค้ามนุษย์บ้างหรือไม่ และทำอย่างไรบ้าง เราสามารถติดต่อรัฐผ่านรัฐได้แค่ลาว กัมพูชา แต่เมียนมานั้น ทหารเมียนมาเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น เราได้มีการประสานกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์หรือไม่
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำการศึกษา ควบคุมให้ได้ว่า กฎหมายที่เรามีอยู่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันการค้ามนุษย์ที่เรามีอยู่นั้นเพียงพอหรือไม่ แต่เรายังไม่มีมาตรการหรือกฎหมายในการตั้งรับและปราบปรามกระบวนการนำพา เรายังไม่มีกระบวนการป้องกันเหยื่อให้ดี ฉะนั้น ตนจึงขอเสนอให้ส่งเรื่องต่อไปที่กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เพื่อพิจารณาศึกษากลไกการดูแล แก้ไขปัญหากระบวนการนำพาและการค้ามนุษย์
ด้าน นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นทางผ่านของขบวนการค้ามนุษย์ที่หลายคนถูกหลอก แม้กระทั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ยังบอกว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกจนเกือบเชื่อ ฟังแล้วก็สะดุ้ง เพราะแม้แต่นายกฯ ยังเกือบเชื่อ ก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะถูกหลอก แต่ประชาชนไม่ได้โชคดีเหมือนนายกฯ แม้จะรู้วงจรการค้ามนุษย์ แต่ยังพบการหลอกลวงอยู่ น่าคิดเหตุใดจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่หมดสักที
ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของรัฐบาลทำได้แค่ 1.การออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2.การตั้งสายด่วน 1441 อายัดบัญชี และขอคำปรึกษาในการแจ้งความได้ตลอด 24 ชั่วโมง 3.การสร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาค แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้
น่าเจ็บใจที่รู้ว่าฐานที่มั่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ติดชายแดนไทย ใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย มาหลอกดูดเงินคนในประเทศไทยทุกวัน ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านหลอกประชาชน เพื่อเอาไปเป็นแรงงานทาส
“รัฐบาลควรประกาศให้ปัญหาค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ ประเทศไทยฝันอยากจะเป็นฮับแห่งเอเชีย แต่ขณะนี้เราเป็นฮับแห่งอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สภาผู้แทนราษฎรควรศึกษาเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเร่งด่วน” นายชุติพงศ์ กล่าว
จากนั้น เปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวางสนับสนุนเรื่องนี้ ก่อนที่ที่ประชุมจะมีมติส่งให้กมธ.ความมั่นคงฯ พิจารณาภายใน 90 วัน