ภูมิธรรม คุยผู้ช่วย รมต.จีน ปมคอลเซ็นเตอร์ นานกว่าชั่วโมง ขอไทยซีลชายแดนช่วยตัดเส้นทางลำเลียง ย้ำจีนไม่ได้กดดัน ผุดประชุม 3 ฝ่ายไทย-จีน-เมียนมา ขอรอฟังมติสมช.ค่ำนี้ ตัดไฟหรือไม่ ย้อน “โรม” เปิดชื่อมาเลยเดี๋ยวจัดการเอง

เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 4 ก.พ.2568 ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังหารือกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง และสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงว่า ที่คุยกันนานเพราะคิดถึงกัน

ทางการจีนมาประชุมกับกระทรวงกลาโหมในระดับปฏิบัติงาน โดยพูดคุยกับ พล.อ.ธาราพงศ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ซึ่งได้คุยเรื่องงานที่จะต้องร่วมมือกัน แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานหลังจากการพูดคุย ทั้งนี้ ทางจีนมาเยี่ยมตนอย่างไม่เป็นทางการ โดยนำความปรารถนาดีของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงของจีนมาให้กับตน

ตนกับรองนายกฯความมั่นคงจริงและอีกหลายคนได้พูดคุยกันมาต่อเนื่องเป็นเดือนแล้ว ในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นปัญหา เพราะคิดว่าปัญหาเหล่านี้หากประเทศใดประเทศหนึ่งดำเนินการแก้ไขคงไม่จบ แต่ต้องเกิดจากหลายๆส่วนพูดคุยกัน ซึ่งเขาก็มีข้อมูลในหลายส่วนเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะจีนเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และเขาก็มาคุยเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์

จริงๆเรื่องนี้ได้รับความเสียหายกับทุกประเทศ ไทยเราก็เสียหาย ในหนึ่งปีมีผู้เป็นเหยื่อ 557,500 ราย สูญเสียเงินกว่า 68,000 ล้านบาท หากคิดเป็นรายวันตกวันละ 80 ล้านบาท ฉะนั้นเราต้องจัดการ ซึ่งการซีล ไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด แต่รวมถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาชญากรรมและการค้ามนุษย์ ตามแนวชายแดน ซึ่งเขาอยากให้เราทำแต่เราทำไปก่อนแล้ว และจีนได้ขอบคุณและชื่นชมไทย

นอกจากนี้ จีนอยากให้ไทยช่วยตัดเส้นทาง ลำเลียง เพื่อช่วยสกัดกั้นทุกทาง ส่วนถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณา แต่ตนบอกไปแล้วว่าในการตัดสินใจเรื่องนี้ ต้องเป็นความเห็นร่วมกันในฐานะที่มีปัญหาร่วมกัน และต้องเคารพอธิปไตยของประเทศไทยด้วย ซึ่งจีนก็ตอบรับ

ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดจัดการประชุมก่อน ระหว่างไทย จีนและเมียนมา มาพูดคุยกัน ส่วนจะต้องมีสำนักงานหรือไม่ อยู่ที่ปัญหา และความเห็นร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งนี้ ปัญหายังลามไปถึงลาวและกัมพูชา ให้ว่าไปตามเนื้อที่เกิดขึ้นแต่จะเอา 3 ประเทศก่อน ส่วนที่อยากให้เรากดดันให้เกิดสิ่งนี้เราดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ตนจะเดินทางไปประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

เมื่อถามว่าการตัดน้ำตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการ เพราะตนเองดูจากกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆสามารถจัดการได้อยู่แล้ว

ส่วนที่หลายคนมองว่าทำไปแล้วจะมีปัญหากับภาคธุรกิจ ที่ได้รับสัมปทานหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าถ้ากระทบกับความมั่นคงภายในสามารถจัดการได้ อย่างที่ตนเองนั้นย้ำ 500,000 กว่าราย กับ 68,000 ล้านบาท มันเสียหายอยู่แล้วเพราะเรื่องนี้คนไทยวัด ซึ่งที่ตนสั่งให้ สมช. ที่ประชุมวานนี้ เขาชี้แล้วว่าเป็นปัญหาภัยความมั่นคง ตนยืนยันว่ามันเป็น

ดังนั้นวันนี้เพื่อให้ชัดเจนเป็นทางการมากยิ่งขึ้น ตนให้ความเห็นของคนที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคงและตนเองคิดว่าต้องเด็ดขาดซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้วันนี้ตนเองจะใช้มติ สมช. เพราะนายกฯ ได้มอบให้กับตนวันนี้ ดูแลด่วน ตนก็จะคุย ส่วนคำสั่งตัดไฟนั้นจะเร็วสุดได้เย็นนี้หรือในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น รับว่าเป็นเรื่องด่วน แต่จะแค่ไหนอย่างไรนั้นยังไม่ได้ประชุม

เมื่อถามว่าทางจีนได้เสนอความช่วยเหลืออะไรในเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่าเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในชั้นต้นตกลงกันว่าเราควรจะร่วมมือกัน เพราะไม่สามารถให้ประเทศใดประเทศหนึ่งจัดการได้ จัดการที่ไทยก็ไปโผล่ที่ประเทศอื่น โดยเราจะต้องทำหลายที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ จ.ตาก ยังมีจังหวัด แม่ฮ่องสอน จ.เชียงราย กาญจนบุรีก็ยังมี เพราะฉะนั้นมาตรการนี้เราจะเริ่มจากจุดต่างๆนี้ไป

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การมาในครั้งนี้ไม่ใช่การกดดันไทย เพราะสิ่งที่ทำมาอยู่ในนั้น ตนทำมาอยู่แล้วและการที่เขาเสนอมาก็ตรงกับที่เราเห็น ไม่ใช่อยู่ๆ เราประเทศแล้วมีคนมาว่าเรา ตนก็ยืนยันกับเขาแล้วว่า ทั้งหมดเรามีปัญหาร่วมกันจะแก้ปัญหาร่วมกันแต่ต้องเคารพ อธิปไตยของแต่ละประเทศ เขาก็บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องมา กดดันอะไรเราและก็เคารพในอำนาจอธิปไตยของบ้านเราแต่เรื่องนี้เขาอยากหารือ ว่าถึงขั้นไหนในการหารือร่วมกัน

เมื่อถามว่า มติ สมช. วันนี้จะได้ความชัดเจนหรือไม่ เพราะเช้าวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยยังพูดอยู่ว่า กฟภ. ยังไม่สามารถตัดเองได้ต้องรอมติจาก สมช. นายภูมิธรรม ยิ้ม และระบุว่า “เมื่อเช้านี้ผมพูดชัดเจนแล้วฉะนั้นต้องรอดูโดยมารยาท ผมไม่ควรพูดอะไรที่เป็นความเห็นของตนเองอย่างเดียวก็ต้องประชุม สมช. ก่อน”

เมื่อถามว่ากรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่าพลตำรวจตรี ต.เต่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการพนันนั้น นายภูมิธรรม ย้อนว่า “อย่าพูดเป็นแบบอักษรย่อ หรือดราม่ามาบอกผมเลย และเอาหลักฐานมาให้ด้วย ผมจัดการเอง มาพูดแบบนี้มันผมจะไปเดาได้อย่างไรว่า ต.เต่าที่ใด ตอเต่าเต็มไปหมดเลยในสระก็มี”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน