เลขาฯป.ป.ช. ปัดตอบข้อมูล เสรีพิศุทธ์ มีนํ้าหนักหรือไม่ หลังเรียกสอบปมชั้น 14 ฮึ่ม รพ.ตํารวจอิดออดไม่ส่งเอกสาร-เวชระเบียน อาจใช้กม.ฟัน บอกไม่จำเป็น เรียก ‘ทักษิณ’ มาให้ถ้อยคำ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ก.พ.2568 ที่โรงแรมเรือรัษฎา จ.ตรัง นายสาโรจน์ พึงรําพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีสอบสวนการเข้าพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ป.ป.ช.ได้ไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ในเรื่องพยานบุคคล และเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มาให้ข้อเท็จจริง เพราะเป็นพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนร่วมไต่สวนด้วย ส่วนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุจะไปร่วมตรวจสถานที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน เพื่อดำเนินการตามที่ให้ข้อมูลไว้

เมื่อถามว่าการให้ถ้อยคําของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด นายสาโรจน์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ให้มาต้องนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ว่าสอดคล้องต้องกันหรือไม่ และหากท่านไปชี้จุดยืนยันที่สถานที่ก็จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น แต่ต้องดูพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบกัน ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ถ้อยคำหรือมอบหลักฐานอะไร หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของคณะไต่สวน

ต่อข้อถามการทำคดีนี้ยากหรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพลและมีชื่อเสียงในแวดวงการเมือง นายสาโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ป.ป.ช.ทำอยู่แล้ว โดนเฉพาะคดีผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหรือทางการเมือง เรามีหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว อาจมีข้อขัดข้องบ้าง แต่เราต้องดำเนินการตามหน้าที่ และอาจต้องใช้เวลาสักนิดหนึ่งในการได้พยานหลักฐานแต่ละส่วน

เมื่อถามว่าวางกรอบเวลาไว้เท่าไหร่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า มีกรอบเวลาตามกฎหมายในเรื่องที่เร่งรัด แต่ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนของพยานหลักฐาน หากครบสมบูรณ์ ป.ป.ช.ก็พิจารณาได้ ไม่ต้องถึงเวลาตามกฎหมายกำหนด

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีใครมาให้ถ้อยคำอีกหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า คงเป็นบุคคลที่รู้เห็น หรือมีหน้าที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะเป็นใครนั้น ตนตอบไม่ได้เพราะเป็นอำนาจของคณะไต่สวน

เมื่อถามว่าจะเรียกบุคคลที่พาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปพบกับนายทักษิณ มาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า หากเป็นพยานที่ยึดโยงกับพยานปากอื่นๆ และหากการไต่สวนเห็นว่าจำเป็น ก็ต้องเรียกมาให้ข้อมูล เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าสิ่งที่พยานให้ข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเป็นอำนาจของคณะไต่สวน

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ยังไม่มีรายชื่อบุคคลที่จะมาให้ข้อมูลเพิ่มใช่หรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีการสอบ แต่ไม่ทราบในรายละเอียดว่ามีใครบ้าง ในฐานะเลขาธิการ ป.ป.ช. ตนทราบเรื่องขั้นตอน แต่ไม่สามารถรู้และแทรกแซงเนื้อหาได้

เมื่อถามว่าต้องเชิญนายทักษิณ มาให้ถ้อยคำด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะหากมีพยานหลักฐานอื่นชัดเจน หรือต่อให้ไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลย ก็ไม่มีเหตุไปเชิญ แต่ขึ้นอยู่กับคณะไต่สวน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลตำรวจ ในการขอเอกสารหรือเวชระเบียนบ้างหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า เราเคยขอไปในชั้นตรวจสอบ แต่ยังไม่ได้มา ในชั้นไต่สวนได้ขอไปอีกครั้ง แต่ได้มาแล้วหรือไม่ ตนไม่ทราบ

เมื่อถามย้ำว่าต้องถึงจุดไหนที่จะบังคับให้ส่งข้อมูลมา เนื่องจากนานแล้ว นายสาโรจน์ กล่าวว่า ในชั้นไต่สวนก็ใช้อำนาจทางกฎหมายแล้ว แต่หากไม่ส่งหรือดำเนินการก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

เมื่อถามว่าการนำข้อมูลผู้ป่วยมาอ้างเพื่อไม่ส่งเอกสารให้ ป.ป.ช. ฟังขึ้นหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า คณะไต่สวนตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องดูหลักกฎหมาย ซึ่งเขาทราบอยู่แล้วว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่

เมื่อถามว่าต้องขอข้อมูลจากแพทยสภาหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ รพ.ตำรวจเคยส่งข้อมูลไปให้แพทยสภาแล้ว นายสาโรจน์ กล่าวว่า อะไรเป็นพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ทั้งหมด ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และโรงพยาบาลตำรวจ ยังโยนกันไปมาแบบนี้ จะต้องพิจารณาโทษอื่นร่วมด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า ต้องดูว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพราะตามข่าวคือ ตร.มอบหมายให้โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขามีข้อขัดข้องกันหรือไม่ ต้องดูต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน