ทักษิณ นั่งรถหรูคันใหม่ มาอวยพรวันเกิด สุวัจน์ โดนแซว อวยพรทีไร ปรับครม.ทุกที เผยคุย รมว.คลัง อีก 2 วัน เคาะประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 9 ก.พ. 2568 ที่บ้านราชวิถี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาอวยพรวันคล้ายวันเกิด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อ เบนท์ลีย์ สีน้ำตาลเลือดหมู ทะเบียน ภภ 2492 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์คันใหม่ และเลขทะเบียนรถคันนี้ตรงกับ พ.ศ. เกิดของนายทักษิณ โดยมีนายสุวัจน์ พร้อมครอบครัว ต้อนรับ

ซึ่งนายทักษิณได้มอบของขวัญวันเกิดให้กับนายสุวัจน์กับมือ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้มอบอะไรให้ นายทักษิณ ตอบกลับว่า “มอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เพราะท่านมีทุกอย่างแล้ว”

จากนั้น นายทักษิณ ได้หยุดทักทายสื่อมวลชน และพูดขึ้นว่า “เห็นบอกว่ามีจดหมายเปิดผนึก” ก่อนจะเดินไปทักทายและลูบศีรษะ ด.ช.อิทธิพุธ หลานตาของนายสุวัจน์ และนั่งพูดคุยกับนายสุวัจน์ โดยกล่าวว่า ยินดีกับนายสุวัจน์ ที่มีหลาน เป็นคุณตาแล้ว ช่วยเพิ่มประชากร

ด้าน นายสุวัจน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ที่นายทักษิณมาอวยพรก็มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกครั้งที่นายทักษิณมาอวยพรวันเกิดที่บ้านของตน จะมีการปรับครม.ทุกที ทำให้นายทักษิณ หัวเราะลั่นและกล่าวว่า อย่าเป็นประเด็น

จากนั้น นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีถามถึงจดหมายเปิดผนึก กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม คัดค้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยว่า ยังไม่เห็นเนื้อหาที่ชัดเจน แต่รู้สึกว่าจะมีการตำหนิผู้นำ เท่าที่ตนได้สอบถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เรื่องการตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ คาดว่าอีก 2 วันก็คงจะลงตัว

เมื่อถามว่าเป็นไปตามที่เป็นข่าวหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องการตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เป็นกลไกที่จะต้องให้แบงก์ชาติ และรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเสนอ และให้คณะกรรมการสรรหาไปเลือก

เมื่อถามว่าคุณสมบัติของประธานบอร์ดของแบงก์ชาติที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า การเป็นประธานต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีความรู้ จึงไม่ทราบเหมือนกันว่า ทางรมว.คลัง จะเสนอใคร

เมื่อถามว่าในใจมองว่าใครที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า พูดตรงๆ คนที่จะมาทำงานให้กับประเทศ โดยส่วนรวมหายาก เพราะต้องมีความพร้อม และต้องมีความเสียสละ บางคนอาจจะพร้อมแต่ไม่เสียสละ บางคนอยากเสียสละ แต่ไม่พร้อมมาช่วยกันทำงานให้บ้านเมือง ก็ค่อนข้างยาก หรืออาจจะเพราะตนแก่ไปแล้ว ไม่รู้จักคน เพราะหายไป 17 ปี ขาดความต่อเนื่องในการรู้จักคน อาจจะมองไม่ค่อยออก แต่ก็ช่วยกันมองอยู่

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน