“อนุทิน”ยัน พรรคร่วมฯ ต้องไว้วางใจนายกฯ พร้อมหนุนข้อมูลให้ แจงศึกซักฟอก ชี้ไม่มีกฎ ว่านายกฯ ตอบได้คนเดียว หากโยงกระทรวงไหน รมต.แจงแทนได้ ส่วนเอ่ยชื่อ “ทักษิณ” ได้หรือไม่ เป็นไปตามข้อบังคับ สส.มีสิทธิ์ประท้วง

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2568 เวลา 13.30 น. ที่หอประชุม วปอ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ว่า การอภิปรายนายกฯ ก็ดีอย่างหนึ่ง สำหรับพวกตนในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ต้องสนับสนุน ให้ข้อมูล ให้กำลังใจ ประคับประคองทุกอย่างกับนายกฯ เพราะถ้านายกฯ ไม่รอดคนเดียว ก็ไม่เหลือใครสักคนในรัฐบาล

เพราะฉะนั้นทุกคนต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว การเล่นการเมืองก็ไม่มี ตนเชื่อว่าถ้านายกฯ ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านเดียวในครั้งนี้ อย่าไปมองว่าทุกอย่างจะไปลงที่นายกฯ เพราะนายกฯ ก็คือรัฐบาล รัฐบาลก็คือรัฐมนตรีทุกคน เพราะฉะนั้นถ้าใครถูกพาดพิง เกี่ยวข้องไปถึงตรงไหน เพราะปฏิบัติตามนายกฯ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็จะต้องออกมาชี้แจง เพราะนายกฯไม่มีทางทราบในรายละเอียดเชิงลึกได้ ว่าที่มาที่ไปของการอภิปรายกระทรวงนั้นๆ เป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีทุกคนต้องให้การสนับสนุน ชี้แจงในเรื่องที่ถูกพาดพิง

ส่วนเรื่องการไว้วางใจนายกฯ หรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า อันนี้ก็ชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ต้องให้ความไว้วางใจนายกฯ อยู่แล้ว เพราะเราปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และนายกฯท่านเป็นผู้นำ

เมื่อถามถึงกระทรวงภายใต้สังกัดพรรคภูมิใจไทยจะต้องติวข้อสอบให้นายกฯ ก่อนหรือไม่

เพื่อเตรียมรับมือการอภิปราย นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯก็คงจะตอบในภาพรวม ในเรื่องของนโยบาย แต่ถ้าลงรายละเอียด เช่น กรณีกระทรวงแรงงานที่ขณะนี้มีเรื่องประกันสังคม ตรงนี้นายกฯ ตอบไม่ได้ ตนก็จะต้องไปกราบเรียนนายกฯ ว่าตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ ต้องตอบ โดยรมว.แรงงานจะต้องมาตอบ แต่ถ้าเป็นเรื่องเขากระโดง ตนก็ต้องตอบ เพราะนายกฯ จะทราบได้อย่างไรว่ามีรายละเอียดอย่างไร ดังนั้น ถ้าพาดพิงรัฐมนตรีที่รับผิดชอบก็ต้องมาตอบ

เมื่อถามถึงกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่าถามคนที่ชื่อแพทองธาร หากใครชื่อแพทองธารก็ให้ลุกขึ้นตอบ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ถ้าเกี่ยวข้องกับใครคนนั้นก็ตอบ ไม่มีกฎที่ไหนว่าคนนั้นจะต้องตอบได้คนเดียว การอภิปรายในรัฐบาลที่แล้ว หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงถูกอภิปราย ก็มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยฯ ที่กำกับดูแลหน่วยงานนั้นๆ มาตอบแทนได้ ซึ่งเป็นการทำงานเป็นหมู่คณะ เป็นกลุ่มอยู่แล้ว ใครตอบก็เหมือนรัฐบาลตอบ

“ท่านอภิปรายนายกฯ ก็คือการอภิปรายการทำงานของรัฐบาล ตอบอย่างไรก็ตามก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในความรับผิดชอบของนายกฯ ใครจะมากำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรก็แล้วแต่ความเข้าใจ แต่รัฐบาลก็มีความเข้าใจอย่างนี้ ว่าเมื่อถึงเวลาก็ต้องตอบในส่วนที่ถูกพาดพิง” นายอนุทินกล่าว

ส่วนที่ฝ่ายค้านจะขอใส่ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในญัตติอภิปรายฯ แต่ถูกกระโดดขวางไม่ให้ใส่ชื่อนายทักษิณ เข้าไปในการอภิปรายนั้น นายอนุทิน ถามกลับว่า ใครกระโดดขวาง ซึ่งการยื่นญัตติให้กับประธานสภาฯ ทุกอย่างอยู่ในญัตติฉบับนั้นแล้ว ก็ไม่มีอะไร การอภิปรายก็อภิปรายไป หากอยู่ในข้อบังคับก็อภิปรายได้เต็มที่ ถ้าอภิปรายนอกข้อบังคับ สส.ในสภาก็มีสิทธิ์ประท้วง หรือขอให้ไม่พาดพิงบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถเข้ามาแก้ต่างด้วยตนเองได้ ก็ว่ากันไปเป็นเรื่องปกติ ทุกปีก็มีการออกนอกกรอบบ้าง ผู้ทำหน้าที่ประธานก็ต้องควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบ ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามย้ำว่าชื่อของนายทักษิณ จะอยู่ในญัตติอภิปรายครั้งนี้ได้หรือไม่

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น แต่ฝ่ายค้านยื่นไปแล้ว เข้าใจว่าเขาก็ใส่ไปแล้ว ได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่การอภิปราย หรือถ้าประธานสภาฯ ไปพิจารณา แต่สุดท้ายแล้วเขาอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ส่วนชื่อของใครจะเป็นองค์ประกอบในนั้น ตนว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน อย่าไปเสียเวลา ก็รีบๆ อภิปราย พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบ นายกฯก็เตรียมตัวชี้แจง รัฐมนตรีและคณะทำงานก็เตรียมชี้แจง อันไหนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกโจมตี ก็จะได้ถือโอกาสนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกปี ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือน่าตกอกตกใจ ต่างคนต่างทำหน้าที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน