นายกฯ อิ๊งค์ สั่งกลางที่ประชุม ครม. ใช้ 5 มาตรการ จัดการผลไม้ส่งออกสู่ตลาดปี 68 โดยเฉพาะทุเรียน แก้ปัญหาราคาตกต่ำ-สินค้าตกค้าง
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการกับรัฐมนตรีถึงมาตรการบริหารจัดการผลไม้ว่า มาตรการบริหารจัดการผลไม้ที่จะทยอยออกสู่ตลาดตามที่ได้รับรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ปี 2568 ผลไม้หลายชนิดจะมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้ จากการส่งออกให้แก่ประเทศมากกว่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี โดยมีประเทศจีนเป็นตลาดหลัก
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำและสินค้าตกค้าง ในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จึงขอมอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมและมาตรการบริหารจัดการต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร ดังนี้
1.ให้กระทรวงพาณิชย์เตรียมมาตรการรองรับการกระจายสินค้าออกจากแหล่งผลิตรวมทั้งการส่งเสริมการบริโภคผลไม้ภายในประเทศ และขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อผลักดันการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ มากขึ้น
2.ให้กระทรวงคลัง โดยกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาขยายระยะเวลาเปิด-ปิดด่านทางบกที่เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านไปยังจีนให้สอดคล้องกับปริมาณและช่วงเวลาการขนส่งทุเรียน
3.ให้กระทรวงคมนาคมหารือภาคเอกชนในการเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวก ทั้งรถขนส่งสินค้าและตู้ขนส่งสินค้าให้เพียงพอ
4.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแลการตรวจคุณภาพสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสารแคดเมียมและสารสีเหลือง (Basic Yellow 2) ซึ่งทางประเทศจีนกำหนดให้ตรวจ 100% หากพบผู้กระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที
5.ให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศจีน ในการอำนวยความสะดวกการนำเข้าทุเรียนจากไทย เช่น การยอมรับการตรวจสอบของห้องแล็บในไทยตั้งแต่ต้นทางโดยไม่ต้องตรวจซ้ำ
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่ในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้นำเอาข้อสั่งการทั้ง 5 ข้อไปปรับใช้กับสินค้าเกษตรชนิดอื่นๆ เช่น มังคุด ลำไย ที่ผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากด้วย
