“มาร์ค” ไม่แปลกใจ ครม.ตั้งตระกูล “คุณปลื้ม”เป็นที่ปรึกษา โว รู้ตั้งแต่วันที่3นักการเมืองพบ “สมคิด”แล้ว ยันไม่ขัดข้อง “บิ๊กตู่”เอานักการเมืองไปหนุน แต่อย่าสร้างบรรทัดฐานลต.โดยใช้อำนาจรัฐ แนะ “ประยุทธ์”เสนออนาคตประเทศดีกว่าตัวบุคคล ยัน ปชป.ไม่จับมือ พท.ต้านพรรคทหาร

เมื่อวันที่ 19 เม.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีครม.มีมติแต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชลมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นกรรมการผู้ช่วยรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะตนได้มาตั้งแต่วันที่มีนักการเมือง 3 คนไปพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯที่ทำเนียบฯแล้วว่าอาจจะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็เลยไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ และเป็นเรื่องที่นายกฯ คงจะพยายามสร้างฐานทางการเมือง ตรงไปตรงมาดี ไม่มีอะไร และเป็นเรื่องที่ตนเคยพูดว่านายกฯ คงไม่ปิดทางตัวเอง ในเรื่องของการที่จะเข้ามาสู่ตำแหน่งหลังจากการเลือกตั้ง ซึ่งทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นในฐานะคนนอก และอีกทางหนึ่งคงจะเปิดเอาไว้คือการมีพรรคการเมือง หรือนักการเมืองที่พร้อมที่จะสนับสนุนท่าน ตนว่าเราคงมองเห็นเป็นอย่างอื่นได้ยาก งานนี้เป็นเรื่องการเมืองมากกว่า อย่างไรก็ตามตนคาดการณ์เอาว่าคงจะมีการแต่งตั้งบุคคลในแวดวงการเมืองเข้าไปทำงานในรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีกหลังจากนี้

เมื่อถามว่า อึดอัดหรือไม่ ว่าถ้าไม่ได้มีอะไรกับรัฐบาลนี้จะเคลื่อนไหวไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่าเป็นสภาพที่เรามองเห็นและยอมรับกันมาอยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ ซึ่งไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเป็นพิเศษ เพราะคิดแต่เพียงว่า เราคงทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทางผู้มีอำนาจอยากจะทำอะไรและมีอำนาจที่จะทำก็คงจะทำ แต่สิ่งที่อยากจะเตือนคืออย่าทำอะไรที่จะไปเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี เช่นการใช้อำนาจรัฐ เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง การเลือกตั้ง เพราะเป้าหมายของ คสช.ในวันที่เข้ามา พูดถึงการที่จะวางรากฐานของการเมืองที่ดีต่อไป ซึ่งการเมืองที่ดีนั้นเมื่อเป็นประชาธิปไตย ต้องเริ่มต้นจากการเลือกตั้งที่สุจริต และเที่ยงธรรม ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ใช้คำว่า Free & Fair เพราะฉะนั้นก็ควรจะเป็นแบบอย่างว่า การจัดการเลือกตั้งที่สุจริต และเที่ยงธรรมนี้จะต้องเป็นอย่างไร

  • “ผมไม่ได้ขัดข้องว่านายกฯอยากจะเอานักการเมืองคนไหนไปสนับสนุนท่าน หรือจะไปทำงาน หรืออะไรก็ตาม แต่ผมย้ำแต่เพียงว่า ขออย่าให้ไปสร้างบรรทัดฐานเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการใช้อำนาจรัฐ เท่านั้นเอง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ต่อข้อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ เอา กับไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าเพื่อไทย กับประชาธิปัตย์จะรวมกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พูดตรงๆ ตนก็ไม่แน่ใจที่จะไปพูดอย่างนั้น แล้วแต่จะมองขั้ว หรือการแบ่งฝัก แบ่งฝ่ายกันอย่างไร แต่ใจตนไม่อยากให้การเมืองไทยมาติดยึดอยู่กับเรื่องของการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในเรื่องตัวบุคคล อย่างไรก็ตามตนไม่

คิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าควรจะเป็นการประชามติ เกี่ยวกับตัวพล.อ.ประยุทธ์ ตาคิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าควรจะเป็นโอกาสให้คนไทยได้เลือกว่า อยากจะได้อนาคตแบบไหน และพล.อ.ประยุทธ์ถ้าจะลง หรือไม่ลงเลือกตั้ง ก็มีสิทธิ์ที่จะนำเสนอว่าอนาคตประเทศไทยที่อยากจะเห็นเป็นอย่างไร และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ควรจะเสนอว่าอนาคตของประเทศไทยที่อยากจะทำเป็นอย่างไร ส่วนพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองอื่นๆ ก็เสนอมา แล้วแข่งขันกัน ตนว่าน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า เมื่อเลือกตั้งเข้ามาแล้วก็จะดูว่าประชาชนให้คำตอบชัดเจนแค่ไหนว่า แนวทางที่เขาต้องการคืออะไร

เมื่อถามย้ำว่า ยังมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ที่เพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ มาร่วมกันสกัดพรรคทหาร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกคำถามนี้ก็วนไปเวียนมา ไม่จบไม่สิ้นตนก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้งคือตั้งใจว่าประชาธิปัตย์จะต้องนำเสนอแนวทางที่เกี่ยวกับอนาคตของประเทศ ตนหวังว่าแนวทางนั้นจะเป็นไปตามความต้องการของประชาชน ประชาชนจะสนับสนุน ถ้าเขาสนับสนุนเข้ามามากๆ จนกระทั่งถึงขั้นว่า ไม่ต้องพึ่งเสียงของคนอื่น คำถามนี้ก็ไม่ต้องมาถามกัน เราก็เดินหน้า ถ้าหากได้คะแนนเสียงไม่พอ แต่เห็นได้ชัดว่ามีความชอบธรรมที่จะเป็นทางเลือกของประเทศที่จะเดินต่อไป ไม่มีใครได้เสียงข้างมาก ตนก็จะต้องถามว่า ใครพร้อมที่จะมาสนับสนุนแนวทางนี้บ้าง เราก็ต้องเป็นหลัก ถ้าเราได้มามาก หากเราได้มาน้อยมาก หรือน้อย ก็ต้องเจียมตัว ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน วันนั้นก็จะต้องมีคนอื่นที่เขาเป็นแนวทางหลัก เมื่อเขาเป็นแนวทางหลัก เขาก็อาจจะมาถามตนว่าจะไปสนับสนุนเขาหรือไม่ ตนก็ต้องบอกว่า ตนจะสนับสนุนเขาก็ต่อเมื่อเห็นว่าเมื่อไปทำงานกับเขาแล้ว แนวทางของประชาธิปัตย์ ที่เคยพูดไว้กับประชาชน ผลักดันได้ ถ้าต้องการจะไปเป็นแค่รัฐบาลแต่ปรากฎว่าเขาพาประเทศไปในทิศทางซึ่งไม่ตรงกับอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ตนว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ไปร่วม ส่วนกับพรรคเพื่อไทย หากแนวทางยังเป็นแบบเดิม ตนบอกได้ว่าประชาธิปัตย์คงร่วมไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน