เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 ทั่วโลกเศร้าสลดเมื่อมีข่าว “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ในวัย 60 ปี ด้วยอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกบริเวณใกล้สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
หากย้อนไปเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ทั่วบริเวณอาคารสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ ณ “คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ” อบอวลไปด้วยความสุขตั้งแต่เช้าจรดค่ำ กับงานฉลองวันเกิดครบรอบ 60 ปี “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา-GO THE POSSIBLEMAN GO VS” ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งกับครอบครัว พนักงาน วงการธุรกิจ เพื่อนพ้องชาวไทยและทั่วโลก
เดือนตุลาคม 2561 เป็นปีที่คุณวิชัยอายุครบ 60 ปี ในขณะที่ธุรกิจของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เองก็กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 เป็นครึ่งหนึ่งในชีวิตกับธุรกิจบนความสำเร็จของ THE POSSIBLEMAN
“คุณวิชัย” ได้แสดงพลังคนไทย ในฐานะนักธุรกิจไทยคนแรกของโลกผู้สร้างปาฎิหารย์เมื่อปี 2559 ทำให้ “ทีมฟุตบอลสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้” ในเมืองเล็ก ๆ กลายเป็นผู้สร้างตำนานด้วยการนำทีมคว้า “แชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015/16” เปิดบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งแรกในรอบ 132 ปี
เสียงไชโยโห่ร้องของคนในเมืองชนบทเล็ก ๆ ซีกโลกตะวันตก ที่หลับใหลมายาวนานดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง จากฝีมือคนไทยที่ชื่อ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ทำให้ “ประเทศไทย” รู้จักอย่างแพร่หลายเพิ่มขึ้นในเวทีโลกอย่างรวดเร็ว เมื่อสื่อทุกสำนักพากันถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ของเมืองไทยพร้อมกันทั้งโลก ยกระดับภาพลักษณ์ประเทศในมุมบวกมาจนถึงวันนี้
คุณวิชัยเคยให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจเข้าสู่การเป็นเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ว่า ตั้งใจทำให้กีฬาเป็นมากกว่าเกมการแข่งขันของคนไม่กี่คน ทว่ากีฬาคือ “ประตูบานใหญ่ของไทยในเวทีโลก” เป็นสะพานนำพาประเทศทอดการเชื่อมโยงเข้ากับโลกใบนี้ครอบคลุมได้ทุกเรื่องอย่างไร้พรมแดน ทั้งทางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม และมิตรภาพ ภายใต้จิตวิญญาณความพร้อมของการเป็นผู้ให้แล้วสิ่งที่ได้รับก็จะตามมาเอง
เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่คุณวิชัยยืนยันหนักแน่นว่า กีฬาเป็นยาวิเศษ สามารถปลูกฝัง DNA ทุกอย่างลงไปตั้งแต่ฐานรากในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนของประเทศไทย ต้องเริ่มต้นจาก “เด็กหรือเยาวชน” เพราะกีฬาสร้างคน สร้างชาติ สร้างชื่อ ทำให้เด็กไทยมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลยาเสพติด มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้-รู้ชนะ-รู้อภัย มีความมุ่งมั่นจะเติบโตเป็นคนดี นำประสบการณ์ความรู้กลับมายกระดับสังคมอย่างยั่งยืนได้
ความมุ่งมั่นตั้งใจในครั้งนั้นจึงนำมาซึ่งการเดินหน้า “พลัง คิง เพาเวอร์” ทุ่มเทเงินมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ริเริ่มโครงการ FOX HUNT โครงการคัดสรรเยาวชนจากทั่วประเทศเข้าศึกษา ฝึกทักษะในสังเวียนนักเตะระดับอินเตอร์ ณ สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ต่อมาขยายต่อไปยังสโมสร OHL LEUVEN ประเทศเบลเยี่ยม จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ และยังคงก้าวต่อไป
คุณวิชัยเคยกล่าวซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ มาตลอดเกือบ 3 ทศวรรษ ถึงบทบาทของ “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ในอีกด้านหนึ่ง เกี่ยวกับการพัฒนา “อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ” ว่า ในฐานะผู้บุกเบิกร้านค้าปลอดภาษีและอากร (duty/tax free) จากจุดเริ่มเมื่อปี 2532 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน ได้ทยอยขยายสาขาร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมือง และสาขาสนามบินทั่วประเทศ ภายใต้รูปแบบการดำเนินงานร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ตลอด 29 ปี (2532-2560) กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ทำให้ร้านค้าดิวตี้ฟรีเป็นแม่เหล็กสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยใช้จ่ายเงินหมุนเวียนมากกว่า 1 ล้านล้านบาท พร้อม ๆ กับสนับสนุนสินค้าไทยและผลิตภัณฑ์ชุมชนกว่า 1,200 ราย นำสินค้ามาวางจำหน่ายในร้านดิวตี้ฟรีคิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2532 จนถึงขณะนี้มูลค่าเกินกว่าครึ่งแสนล้านบาท
ประการสำคัญ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ “จ่ายภาษี-ผลตอบแทนรัฐ” อย่างสม่ำเสมอมาตลอด 29 ปี รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การชำระค่าตอบแทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องกว่า 80,000 ล้านบาท จ่ายภาษีธุรกิจคืนรัฐประมาณ 25,000 ล้านบาท ควบคู่กับการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้คนไทยนับจากวันเริ่มต้นที่อาคารมหาทุน พลาซ่า มีพนักงานแค่หลักร้อยคน กระทั่งวันนี้มีสาขาทั่วประเทศรวมพนักงานไม่ต่ำกว่า 10,000 คน
ถึงแม้ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป จะไม่มีบุรุษผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ชื่อ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” อีกต่อไปแล้ว ทว่าบทบาทหน้าที่ “การให้และการสร้างสรรความดี” ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะยังคงดำเนินต่อไปตามปนิธานของพ่อ ภายใต้การนำของทายาทรุ่นลูก “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว
เรื่องโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ -gurutourza
