112ปีวันกองทัพเรือ มุ่งมั่นสู่การเป็น กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ

112ปีวันกองทัพเรือ – เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโรงเรียนนายเรือณ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทหารเรือไทยตามแบบตะวันตก

ทรงมีลายพระราชหัตถเลขาในสมุดเยี่ยมว่า “วันที่ 20 พฤศจิกายน ร.ศ.125 เรา จุฬาลงกรณ ปร. ได้เปิดโรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจ ที่ได้เห็นการทหารเรือมีรากหยั่งลงแล้ว จะเป็นที่มั่นสืบไปในภายหน้า”

112ปีวันกองทัพเรือ

กองทัพเรือ จึงได้ถือเอาวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันกองทัพเรือ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการก่อตั้งสถาบันหลักของกองทัพเรือ นับเป็นรากฐานของการพัฒนากองทัพเรือไทยให้มีความเจริญก้าวหน้า และมั่นคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เป็นกองทัพเรือที่มีความทันสมัยและเข้มแข็ง อันจะนำไปสู่การเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการบริหารจัดการตามวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือต่อไป

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพเรือทำหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของปวงชนชาวไทย อย่างเต็มกำลังความสามารถ การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ รวมถึงได้ร่วมงานตามโครงการ “หน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ”สนองพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

การปกป้องอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ การสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ การดำเนินการตามกรอบงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกตามนโยบายของรัฐบาลกองทัพเรือได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคม พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ให้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ศูนย์ขนส่งสินค้าทางอากาศโลจิสติกส์ และศูนย์อบรมด้านการบินและอวกาศ อันจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถ ในการแข่งขันสู่ความเป็นผู้นำในภูมิภาคของประเทศ

กองทัพเรือตระหนักถึงสภาวะแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและเกิดปัญหาที่มีความยุ่งยากซับซ้อนทำให้บทบาทภารกิจไม่ได้จำกัดแต่เพียงการป้องกันประเทศหากต้องมีหน้าที่ที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่และความมั่นคงทั้งทางบกและในทะเล

กองทัพเรือจึงจัดเรือ,อากาศยาน พร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบทั้งทางบกและทางทะเล ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามันเพื่อปกป้องอธิปไตยและรักษาทรัพยากรรวมถึงผลประโยชน์ของชาติในทะเลในพื้นที่รับผิดชอบกว่าสามแสนตารางกิโลเมตร

พื้นที่เหล่านี้เป็นแหล่งรายได้มหาศาลของประเทศตลอดจนคุ้มครองพี่น้องชาวประมงให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการเตรียมความพร้อมและการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัตินานาประการ อันแสดงให้เห็นว่าที่ใดมีภัยที่นั่นมีทหารเรือและเป็นที่พึ่งของประชาชน

การแสดงบทบาทในเวทีโลกในรอบปีที่ผ่านมา กองทัพเรือได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมทางเรือนานาชาติเนื่องในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปีการก่อตั้งอาเซียนประกอบด้วยการประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียนการฝึกผสมพหุภาคี การสวนสนามทางเรือบริเวณอ่าวพัทยาระหว่างวันที่ 13- 22 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งประสบความสำเร็จ และได้รับความคำชื่นชมจากผู้ร่วมกิจกรรมทางเรือนานาชาติอย่างมาก

นับว่าเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์,และเกียรติภูมิของประเทศไทย,ในฐานะที่เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งและมีบทบาทสำคัญในอาเซียนมาโดยตลอด

นอกจากนี้ในห้วงเดือนตุลาคม กองทัพเรือได้ส่งเรือหลวงตากสินและเรือหลวงกระบี่ พร้อมกำลังพล เข้าร่วมพิธีสวนสนามทางเรือ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีการจัดตั้งกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี ณ เกาะเจจู สาธารณรัฐเกาหลีโดยมีกองทัพเรือมิตรประเทศจำนวน 52 ประเทศเข้าร่วมเฉลิมฉลองและมี 14 ประเทศซึ่งได้รับคำชื่นชมทั้งจากประเทศเจ้าภาพและชาติที่เข้าร่วมในพิธีนี้

และภายหลังเสร็จสิ้นสวนสนามทางเรือกองทัพเรือได้ส่งเรือทั้งสองลำเข้าร่วมการฝึกผสม ASEAN CHINA MARITIME EXERCISE 2018 (ACMEX2018) ที่ เกาะเชจู สาธารณรัฐเกาหลี ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10- 15 ตุลาคม 2561 อีกด้วย

จีนซ้อมรบอาเซียน

ในส่วนของการเตรียมกำลังกองทัพเรือให้ความสำคัญในการพัฒนาองค์บุคคลองค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธีควบคู่กันไปโดยการเสริมสร้างกำลังพลให้มีความรู้ความชำนาญตามสาขาวิชาชีพ สู่ความเป็นสากล จัดการฝึกที่สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ และสถานการณ์ในปัจจุบัน และพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานร่วมกับนานาชาติในด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถ สำหรับรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ

นอกจากนี้กองทัพเรือยังฝึกประจำตามวงรอบ ทั้งภาคสนามและภาคทะเลรวมถึงฝึกร่วมกับมิตรประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมในการรบและปฏิบัติภารกิจสร้างความมั่นคงและปลอดภัยรวมถึงได้พิจารณาจัดหายุทโธปกรณ์มาประจำการเพิ่มเติมเช่นการจัดหาเรือดำน้ำการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งด้วยการพึ่งพาตนเองการจัดหาเรือตรวจการณ์ชายฝั่งจากอู่ต่อเรือภายในประเทศ

กองทัพเรือยังได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักทำหน้าที่กำกับดูแลการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย รวมทั้งการกระทำผิดเกี่ยวกับแรงงานในภาคประมงในการสร้างกลไกการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานทางทะเลรวมถึงการกำกับดูแลแรงงานในภาคประมงให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ด้วยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมาย จนมีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมนับได้ว่าส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการประมงอย่างยั่งยืนของประเทศ โดยจะธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยของชาติ พิทักษ์รักษาและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะเป็นกองทัพเรือของประชาชน ร่วมสร้างพลังให้กองทัพเรือมุ่งสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจตลอดไป

……………….

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน