“การเคหะแห่งชาติ” เดินหน้าโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ของการเคหะแห่งชาติ (บ้านสบายเพื่อยายตา) ปี 2565 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น 8 จังหวัด ตั้งเป้าซ่อมแซม/ปรับปรุง สร้างบ้านใหม่ ให้ผู้สูงอายุ 30 หลัง
ด้วยภารกิจหลักในการพัฒนาและจัดสร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง หนึ่งในโครงการที่ “การเคหะแห่งชาติ” ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 คือ โครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ของการเคหะแห่งชาติ (บ้านสบายเพื่อยายตา) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยของ “ผู้สูงอายุ” ผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ โดยการปรับปรุงซ่อมแซม หรือจัดทำที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งหลัง รวมทั้งการปรับสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการตามคุณลักษณะเฉพาะของผู้อยู่อาศัยทำให้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างเป็นปกติสุขในชุมชนเดิมอย่างยั่งยืน
สำหรับการดำเนินงานโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุฯ การเคหะแห่งชาติ ได้จัดสรรงบประมาณจากกำไรสุทธิประจำปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยตามสภาพความเป็นจริงให้กับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ผ่านการประชาคมจากหน่วยงานท้องถิ่น โดยบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจนแล้วเสร็จ และจัดพิธีส่งมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุฯ “บ้านสบายเพื่อยายตา” อย่างเป็นทางการ
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า เป้าหมายการดำเนินงานโครงการบ้านสบายเพื่อยายตาในปี 2565 การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุทั้งหมดจำนวน 30 หลัง ใน 8 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดลำปาง, ลำพูน, สระบุรี, อ่างทอง, มหาสารคาม, ยโสธร, พัทลุง และชุมพร โดยขณะนี้การเคหะแห่งชาติ อยู่ในขั้นตอนของการลงพื้นที่เพื่อประชุมชี้แจงขั้นตอนการดำเนินโครงการตรวจสอบบ้านผู้สูงอายุตามรายชื่อที่หน่วยงานท้องถิ่นแจ้งขอความช่วยเหลือ โดยพิจารณาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่การเคหะแห่งชาติกำหนด นอกจากนี้ ยังทำการเก็บข้อมูลทางด้านกายภาพและสังคม พร้อมออกแบบและประมาณราคาโดยสถาปนิก วิศวกรของการเคหะแห่งชาติ
โดยการเคหะแห่งชาติจะมีการแจ้งผลการอนุมัติรายชื่อ/รายการปรับปรุง และงบประมาณให้กับหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องรับทราบในช่วงเดือนเมษายน และจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงบ้านในช่วงเดือนพฤษภาคม และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2565 และส่งมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุต่อไป